– “ดารุมะ ซูชิ” เป็นชื่อร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น มีสาขา 26 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในจำนวนนี้ 6 สาขา เป็นของเจ้าของบริษัท อีก 20 สาขาเป็นการขายแฟรนไชส์
– เจ้าของบริษัทคือ “บอลนี่ – เมธา ชลิงสุข” เขาจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเมื่อเดือนมกราคม 2559 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ก่อนเปิดร้าน เมธา ได้เข้าเรียนหลักสูตรการทำซูชิที่โรงแรมดุสิตธานี แล้วเปิดดารุมะ สาขาแรกที่อุดมสุข 50 ริมถนนสุขุมวิท
– เมธา เคยให้สัมภาษณ์สื่อแห่งหนึ่งไว้เมื่อมกราคม 2565 ว่า ตอนอยู่ที่ออสเตรเลีย เขาเคยทำงานร้านอาหารไทย พอกลับมาเมืองไทยเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ก็ฝันอยากมีร้านอาหารของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นกำลังดังมากในไทย จึงหันมาทำร้านอาหารญี่ปุ่น
– ดารุมะได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภค เพราะหลายสาขาเปิดในศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียง จุดขายคือการจำหน่ายคูปองล่วงหน้า ผ่านแอปพลิเคชันในราคาเพียง 199 บาท (รวม vat = 212 บาท) บัตรมีอายุถึง 6 เดือน แต่มีเงื่อนไขคือต้องซื้อ 5 ใบขึ้นไปจึงจะได้ราคานี้
– คนที่ซื้อคูปองล่วงหน้าของดารุมะ มีตั้งแต่บุคคลทั่วไปที่ซื้อหาไว้ทานเอง กับอีกส่วนคือ คนกลางซื้อมาขายต่อ เพื่อทำกำไร ซึ่งคนกลุ่มหลังนี้ซื้อเวาเชอร์ตุนไว้จำนวนมาก
– วันที่ 17 มิถุนายน 2565 คนที่ซื้อคูปองล่วงหน้าไว้ และจะไปทานอาหาร พบว่า ดารุมะ หลายสาขาพร้อมใจกันขึ้นป้าย “ปิดร้าน 1 วัน เพื่อปรับปรุงระบบ” แต่จนถึงวันที่ 18 ก็ยังไม่เปิด และเพจร้านก็หายไป
– ต่อมาผู้จัดการร้านดารุมะ สาขาหนึ่งออกมาเล่าว่า อยู่ ๆ เจ้าของบริษัทก็ดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่มทั้งหมด แล้วยังลบไลน์ตัวเองทิ้ง ไม่มีใครติดต่อเขาได้อีก โดยที่เจ้าของแฟรนไชส์และพนักงานร้านทั้งหมดไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ซัพพลายเออร์ก็ไม่ส่งวัตถุดิบให้ จึงจำเป็นต้องปิดบริการไปก่อน
– ส่วนที่บอกว่าระบบล่ม เพราะลูกค้ากระหน่ำโทรถาม ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี จะบอกว่าติดต่อผู้บริหารไม่ได้ก็กลัวจะมีผลต่อหน้าที่การงานในอนาคต จึงต้องตอบแบบนั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พนักงานก็เดือดร้อนเช่นกัน ยังไม่ได้รับเงินเดือนและไม่มีคำตอบให้กับอนาคตของตัวเอง
– ผู้จัดการสาขาคนหนึ่งเล่าว่า ทำงานมา 3 ปี เจ้าของบริษัทเป็นเจ้านายที่น่ารักกับลูกน้อง แต่บริษัทนี้ไม่มีฝ่ายบุคคล ไม่มีฝ่ายบัญชี ไม่มีทีมบริหาร การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่เจ้าของบริษัทคนเดียว เมื่อเขาหายไปจึงล้มทั้งระบบ และยังพบว่าเค้างจ่ายค่าปลาแซลมอนกับซัพพลายเออร์ กว่า 30 ล้านบาท
– ส่วนบริษัทที่พัฒนาแอปฯ ให้ดารุมะ เมื่อทราบข่าวก็รีบไปแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจและ สคบ. ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมปิดระบบในแอปฯ เพราะเกรงจะมีคนซื้อคูปองล่วงหน้าเพิ่ม
– ช่วงดึกของคืนวันที่ 16 มิถุนายน เมธา ได้บินออกนอกประเทศไปแล้ว ปลายทางอยู่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บางกระแสข่าวบอกว่าหลังจากนั้นเขาบินต่อไปสหรัฐอเมริกา
– มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ร้านไม่มีทางได้กำไรจากการขายคูปองราคานี้ เพราะลำพังปลาแซลมอน ก็ราคากิโลกรัมละ 380 บาทแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มาเพื่อจะกินแซลมอนแบบไม่อั้น จึงเชื่อว่า เมธา ฉ้อโกงตั้งแต่แรก
– เกิดมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท มีผู้เสียหายอย่างน้อย 4 กลุ่ม คือ ผู้ซื้อแฟรนไชส์, ผู้ซื้อคูปอง, พนักงาน และซัพพลายเออร์ นอกจากนี้ยังพบว่าบางสาขาค้างจ่ายค่าเช่าสถานที่มา 2 เดือนแล้ว
– หนึ่งในคนที่ซื้อแฟรนไชส์ ดารุมะ เคยให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” เมื่อกันยายน 2564 ว่า เหตุผลที่เลือกลงทุนกับ ดารุมะ เพราะเป็นเพื่อนกับเจ้าของแบรนด์ตั้งแต่ประถม โดยเธอซื้อแฟรนไชส์ไว้ 6 สาขา
– ผู้ซื้อแฟรนไชส์สาขาสายไหม เล่าว่า ซื้อแฟรนไชส์ในราคา 2.5 ล้านบาท ข้อตกลงคือเจ้าของแบรนด์จะปันผลกำไรให้ 10% จากยอดขายของทุกเดือน แต่กลับได้รับเงินปันผลแค่ 2 เดือนแรกเท่านั้น เฉลี่ยเดือนละแสนกว่าบาท แต่เดือนที่ 3 ไม่ได้เงิน และเจ้าของแบรนด์ไม่ส่งวัตถุดิบให้ จนร้านต้องปิดตัวลง