เปิดจุดกำเนิด “ดารุมะ” บุฟเฟ่ต์ 18 มงกุฎ สู่ตอนจบ “บอลนี่”

เปิดไทม์ไลน์ร้านบุฟเฟต์แซลม่อนชื่อดัง “ดารุมะ” จุดกำเนิดต้นทุนจดทะเบียนเพียง 5 ล้านบาท ก่อนขยายเป็น 26 สาขาทั่วประเทศ กระทั่งถูกเจ้งความ นำมาสู่ตอนจบ “บอลนี่”

จากกรณีดราม่าร้านบุฟเฟต์เจ้าดัง ดารุมะ ซูชิ ที่จู่ๆ ก็ปิดร้านปิดร้านเงียบหายไป ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2565 ส่งผลให้เกิดผู้เสียหายขึ้นจำนวนมากทั้งผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ ผู้ที่ซื้อคูปองลดราคา และพนักงานของร้าน เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ทางร้าน ดารุมะ ซูชิ ได้ทำการเปิดขาย Voucher หรือ คูปอง ในราคา 199 บาท โดยบางคนซื้อมาเก็บไว้ เผื่อใช้ในโอกาสที่ต้องการ แต่ตอนนี้กลับต้องมาเรียกร้องขอเงินคืน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งหากย้อนไทม์ไลน์กลับไปจะพบดังนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

– “ดารุมะ ซูชิ” เป็นชื่อร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น มีสาขา 26 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในจำนวนนี้ 6 สาขา เป็นของเจ้าของบริษัท อีก 20 สาขาเป็นการขายแฟรนไชส์

– เจ้าของบริษัทคือ “บอลนี่ – เมธา ชลิงสุข” เขาจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเมื่อเดือนมกราคม 2559 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ก่อนเปิดร้าน เมธา ได้เข้าเรียนหลักสูตรการทำซูชิที่โรงแรมดุสิตธานี แล้วเปิดดารุมะ สาขาแรกที่อุดมสุข 50 ริมถนนสุขุมวิท

– เมธา เคยให้สัมภาษณ์สื่อแห่งหนึ่งไว้เมื่อมกราคม 2565 ว่า ตอนอยู่ที่ออสเตรเลีย เขาเคยทำงานร้านอาหารไทย พอกลับมาเมืองไทยเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ก็ฝันอยากมีร้านอาหารของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นกำลังดังมากในไทย จึงหันมาทำร้านอาหารญี่ปุ่น

– ดารุมะได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภค เพราะหลายสาขาเปิดในศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียง จุดขายคือการจำหน่ายคูปองล่วงหน้า ผ่านแอปพลิเคชันในราคาเพียง 199 บาท (รวม vat = 212 บาท) บัตรมีอายุถึง 6 เดือน แต่มีเงื่อนไขคือต้องซื้อ 5 ใบขึ้นไปจึงจะได้ราคานี้

– คนที่ซื้อคูปองล่วงหน้าของดารุมะ มีตั้งแต่บุคคลทั่วไปที่ซื้อหาไว้ทานเอง กับอีกส่วนคือ คนกลางซื้อมาขายต่อ เพื่อทำกำไร ซึ่งคนกลุ่มหลังนี้ซื้อเวาเชอร์ตุนไว้จำนวนมาก

– วันที่ 17 มิถุนายน 2565 คนที่ซื้อคูปองล่วงหน้าไว้ และจะไปทานอาหาร พบว่า ดารุมะ หลายสาขาพร้อมใจกันขึ้นป้าย “ปิดร้าน 1 วัน เพื่อปรับปรุงระบบ” แต่จนถึงวันที่ 18 ก็ยังไม่เปิด และเพจร้านก็หายไป

– ต่อมาผู้จัดการร้านดารุมะ สาขาหนึ่งออกมาเล่าว่า อยู่ ๆ เจ้าของบริษัทก็ดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่มทั้งหมด แล้วยังลบไลน์ตัวเองทิ้ง ไม่มีใครติดต่อเขาได้อีก โดยที่เจ้าของแฟรนไชส์และพนักงานร้านทั้งหมดไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ซัพพลายเออร์ก็ไม่ส่งวัตถุดิบให้ จึงจำเป็นต้องปิดบริการไปก่อน

– ส่วนที่บอกว่าระบบล่ม เพราะลูกค้ากระหน่ำโทรถาม ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี จะบอกว่าติดต่อผู้บริหารไม่ได้ก็กลัวจะมีผลต่อหน้าที่การงานในอนาคต จึงต้องตอบแบบนั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พนักงานก็เดือดร้อนเช่นกัน ยังไม่ได้รับเงินเดือนและไม่มีคำตอบให้กับอนาคตของตัวเอง

– ผู้จัดการสาขาคนหนึ่งเล่าว่า ทำงานมา 3 ปี เจ้าของบริษัทเป็นเจ้านายที่น่ารักกับลูกน้อง แต่บริษัทนี้ไม่มีฝ่ายบุคคล ไม่มีฝ่ายบัญชี ไม่มีทีมบริหาร การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่เจ้าของบริษัทคนเดียว เมื่อเขาหายไปจึงล้มทั้งระบบ และยังพบว่าเค้างจ่ายค่าปลาแซลมอนกับซัพพลายเออร์ กว่า 30 ล้านบาท

– ส่วนบริษัทที่พัฒนาแอปฯ ให้ดารุมะ เมื่อทราบข่าวก็รีบไปแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจและ สคบ. ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมปิดระบบในแอปฯ เพราะเกรงจะมีคนซื้อคูปองล่วงหน้าเพิ่ม

– ช่วงดึกของคืนวันที่ 16 มิถุนายน เมธา ได้บินออกนอกประเทศไปแล้ว ปลายทางอยู่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บางกระแสข่าวบอกว่าหลังจากนั้นเขาบินต่อไปสหรัฐอเมริกา

– มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ร้านไม่มีทางได้กำไรจากการขายคูปองราคานี้ เพราะลำพังปลาแซลมอน ก็ราคากิโลกรัมละ 380 บาทแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มาเพื่อจะกินแซลมอนแบบไม่อั้น จึงเชื่อว่า เมธา ฉ้อโกงตั้งแต่แรก

– เกิดมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท มีผู้เสียหายอย่างน้อย 4 กลุ่ม คือ ผู้ซื้อแฟรนไชส์, ผู้ซื้อคูปอง, พนักงาน และซัพพลายเออร์ นอกจากนี้ยังพบว่าบางสาขาค้างจ่ายค่าเช่าสถานที่มา 2 เดือนแล้ว

– หนึ่งในคนที่ซื้อแฟรนไชส์ ดารุมะ เคยให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” เมื่อกันยายน 2564 ว่า เหตุผลที่เลือกลงทุนกับ ดารุมะ เพราะเป็นเพื่อนกับเจ้าของแบรนด์ตั้งแต่ประถม โดยเธอซื้อแฟรนไชส์ไว้ 6 สาขา

– ผู้ซื้อแฟรนไชส์สาขาสายไหม เล่าว่า ซื้อแฟรนไชส์ในราคา 2.5 ล้านบาท ข้อตกลงคือเจ้าของแบรนด์จะปันผลกำไรให้ 10% จากยอดขายของทุกเดือน แต่กลับได้รับเงินปันผลแค่ 2 เดือนแรกเท่านั้น เฉลี่ยเดือนละแสนกว่าบาท แต่เดือนที่ 3 ไม่ได้เงิน และเจ้าของแบรนด์ไม่ส่งวัตถุดิบให้ จนร้านต้องปิดตัวลง

– เมธา ขายแฟรนไชส์สาขาหนึ่งให้กับบุคคล 2 คน โดยทั้งสองคนไม่รู้ว่ามีการขายซ้ำซ้อน เพิ่งมาทราบ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ว่า ต่างก็ถือสัญญาเป็นเจ้าของสาขาเดียวกัน ทำให้ เมธา ได้รับเงินในการขายแฟรนไชส์สาขานี้สาขาเดียว 5 ล้านบาท

– ร้านเปิดขายคูปองผ่านแอปฯ ตั้งแต่ปี 2564 และลดราคาลงเรื่อย ๆ จนเหลือ 199 บาท ขายไปแล้วเกือบ 6 แสนใบ ถูกใช้ไปแล้วประมาณ 4 แสนใบ เหลือที่ยังไม่ได้ใช้ 1.29 แสนใบ

– ดารุมะ มีพนักงานทุกสาขารวม 395 คน ซึ่งต่อมาพบว่า ทุกคนมีสถานะเป็นลูกจ้างนอกระบบ หรือแรงงานเถื่อน เพราะ เมธา ไม่ได้ทำเอกสารสัญญาจ้างใดๆ และบริษัทดารุมะก็ไม่มีสำนักงานจริง แต่ใช้ที่ตั้งร้านสาขาหนึ่งมาจดทะเบียนเป็นสำนักงาน

– ล่าสุด 22 มิ.ย. 65 ตำรวจควบคุมตัว เมธา ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทร.เอาจริง! ติดเขี้ยวเล็บให้ปชช.แนวชายแดน สอนจับปืน-ศัตรูมาพร้อมซัดโป้ง
คดีสังหาร สจ.โต้ง ส่อบานปลาย คลิปเสียงโผล่อีกไขปมยิง โยงเงินปริศนา 70 ล้าน
"อดีตสว.สมชาย" ชี้ฝ่ายอนุรักษ์เดินหมากผิด เปิดโอกาส"ระบอบทักษิณ"ฟื้นชีพรอบวกส้ม
ม่วนกรุ๊ป เริ่มแล้ว เทศกาลตีคลีไฟชัยภูมิ หนึ่งเดียวในโลก 1 ครั้งในรอบปี สุดคึกคัก
ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"
“ว้าแดง”เหิมหนัก! สั่งคนไทยห้ามเก็บของป่า ชาวบ้านผวา-ซ้อมอพยพถี่ยิบ
เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น