ยังคงเป็นกระแสสังคมอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของ ดารานักแสดงสาว “ แตงโม นิดา” ที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต เมื่อช่วงดึกวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ ( 25 มิ.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำพยานบุคคลและเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง เพื่อดำเนินคดีกับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์
ข่าวที่น่าสนใจ
กรณีกล่าวหาว่า ตนเองหลอกลวง นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือแม่แตงโม เรื่องคลิปหลักฐานว่า แตงโมถูกฆาตกรรมจนนำไปสู่การฟ้องตรงเอาผิดกับคนบนเรือ ทั้งที่แม่แตงโมได้เซ็นหนังสือมอบอำนาจให้ตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงเห็นว่าเป็นการพูดกล่าวหากันลอยๆ ทำให้ตนเองต้องใช้สิทธิในการดำเนินคดี ซึ่งการดำเนินคดีวันนี้เป็นคดีที่ 5 และสัปดาห์หน้าจะมีอีก1คดี รวมแล้วจะมีการแจ้งดำเนินคดีประมาณ 15 คดี กระจายตามโรงพักทั่วประเทศ
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ตนยังเตรียมดำเนินคดีกับทีวีช่องหนึ่งที่มีการไลฟ์สดสัมภาษณ์ โดยมีการพูดพาดพิงถึงภรรยาและลูกของตนเองแบบเสียหาย สร้างความไม่สบายใจให้ตนเองและครอบครัวอย่างมากจึงจำเป็นต้องดำเนินคดี แต่ย้ำว่าตนเองกับสื่อไม่ใช่คู่ขัดแย้งกันแต่หากอยากได้เรทติ้งก็ต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นด้วย ยืนยันจะไม่ยอมรับคำขอโทษ ต้องกราบเท้าอย่างเดียวเพราะสิ่งที่บุคคลนี้ให้สัมภาษณ์เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ โดยเฉพาะที่ออกมาระบุว่าถ้าใครซื้อเสื้อไปใส่ตำรวจจะต้องกลัวทั้งประเทศไม่กล้าดำเนินคดี เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามตำรวจด้วย
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อไปว่าในส่วนของการฟ้องตรงเอาผิดกับคนบนเรือคดีฆาตกรรมนั้นต้องรอดูว่าแม่แตงโมจะถอนฟ้องหรือไม่หากวันที่ 20ก.ค.นี้ศาลพิจารณาแล้วว่าตนเองไม่มีอำนาจก็จะยุติและไม่ยุ่งกับคดีแต่คลิปและพยานหลักฐานต่างๆ ก็จะเก็บไว้ใช้ต่อสู้กรณีที่ถูกคนบนเรือฟ้องกลับ พร้อมระบุว่า อยากให้มีการตรวจหาคราบเลือดบนเรือลำที่เกิดเหตุโดยมีหน่วยงานกลาง ผู้เชี่ยวชาญเช่น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ตลอดสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบด้วย
ส่วนเรือที่อีกลำที่มาช่วยทราบว่า ขณะนี้มีการขายไปแล้ว พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่มีคลิปกรีดขาแตงโมแต่มีหลักฐานอื่นที่บ่งบอกได้ว่าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ ส่วนกรณีที่ตนร้องตำรวจ ปปป.เพื่อเอาผิดตำรวจภูธรภาค 1 ที่ทำคดีแตงโมนั้นทาง ปปช.นัดเข้าไปให้ข้อมูลในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตำรวจ 4 นายทราบว่า ยังไม่มีการสรุป เนื่องจากทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ยังไม่ยอมชี้แจงซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึง นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย หรือ ทนายกุ้ง ที่เสนอตัวเข้ามาช่วยนั้น ตนเองไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่เนื่องจากทีมทนายกฎหมายของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมทำงานกันมานานกว่า 10ปี ทุกคนผ่านการฝึกฝนและมีประสบการณ์ ผ่านการตรวจสอบทุกขั้นเพื่อรักษาคุณภาพของชมรม เป็นทนายความที่ดีมีความโปร่งใส ไม่มีการเรียกรับเงินจากประชาชน ซึ่งทนายกฤษณะ ยังไม่ผ่านเกณฑ์ คณะกรรมการของชมรมจึงไม่อยากให้เข้ามายุ่ง ส่วนทนายษิทรา หลังจากเจอที่รายการโหนกระแสก็ยังไม่ได้คุยกันอีก เข้าใจว่า อยากช่วยแต่มองว่า ทนายษิทรา เองก็น่าจะมีหลักฐานและรูปถ่ายเรือเพราะทราบว่าหลังเกิดเหตุ ก็ไปดูเรือที่อู่ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
