กลายเป็นปัญหาภายในที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สืบเนื่องจากการที่กลุ่มผู้ถือหุ้น บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ส่งข้อมูลร้องเรียนก.ล.ต.เพิ่มเติม กรณีพบว่าการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการพัฒนา “สระสำรองน้ำสระสำนักบก” ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี มูลค่า 75,000,000 บาท (เจ็ดสิบห้าล้านบาทถ้วน) ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้ที่ความจุ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร อาจเข้าข่ายมีพฤติกรรมไม่โปร่งใส รวมถึงฝ่าฝืน หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ เรื่องความรับผิดชอบต่อคู่ค้า รวมถึงมีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและเงื่อนไขสัญญา หรือข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรม ขาดธรรมาภิบาล และไม่มีวิธีปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นสำคัญ
โดยมีรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
1. นางอัศวินี ไตลังคะ ประธานคณะกรรมการบริษัท
2. พลเรือเอก สุชีพ หวังไมตรี ประธานคณะกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
3. นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
4. คณะกรรมการบริษัท ของบริษัทฯ
พร้อมสรุปรายละเอียดเป็นไทม์ไลน์ประกอบดังนี้
1. ช่วงเดือนสิงหาคม 2562 สระสำรองน้ำสระสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี ของ “อีสท์ วอเตอร์” เกิดความชำรุดเสียหาย และต่อมาอีก 22 เดือน บริษัทอีสท์วอเตอร์ ได้มีการประกาศประชาสัมพันธ์เพื่อคัดเลือกราคาเมื่อ 30 มิถุนายน 2564
2. ช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 “อีสท์ วอเตอร์” ขออนุมัติเห็นชอบรายชื่อผู้มีสิทธิเสนอราคา จำนวน 5 ราย แต่ในเดือนสิงหาคม 2564 มีผู้ยื่นซองเสนอราคาเพียง 2 ราย ไม่ครบตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง จึงขออนุมัติคัดเลือกราคาจัดหาผู้รับจ้าง (เพิ่มเติม)
3. ช่วงเดือนสิงหาคม 2564 “อีสท์ วอเตอร์” ไม่เชิญผู้รับจ้าง (บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด) ซึ่งเป็นผู้รับจ้างออกแบบ เข้าร่วมการคัดเลือกเป็นผู้รับจ้างในโครงการสระสำนักบก โดยแผนกจัดซื้อของ “อีสท์ วอเตอร์” ให้เหตุผลว่าขัดกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และ “อีสท์ วอเตอร์” ยังได้ปฏิเสธการขายแบบ ไม่ยอมให้ผู้รับจ้าง เข้าร่วมการคัดเลือกราคา โดยอ้างเหตุผลว่าจะขัดต่อหลักความเป็นธรรมและการแข่งขันที่เท่าเทียม