“สภาวิศกรรมฯ” ตรวจเหตุเพลิงไหม้ตึกย่านสำเพ็ง แนะทุบสร้างใหม่

"สภาวิศกรรมฯ" ตรวจเหตุเพลิงไหม้ตึกย่านสำเพ็ง แนะทุบสร้างใหม่

เช้านี้ทีมสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ในพระบรมราชปถัมภ์ , ผู้อำนวยการสำนักงานเขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย การไฟฟ้านครหลวง และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างของอาคารย่านสำเพ็ง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้วานนี้

โดยหลังการ เข้าตรวจสอบประมาณ 30 นาที นางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายประมาณ 4 คูหา ประเมินมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ทั้งนี้ยอมรับว่า ยังไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญ โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งสำรวจสายไฟเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบจุดที่มีความเสี่ยงก็ให้แจ้งมายังสำนักงานเขตได้ รวมถึงจะเชิญการไฟฟ้ามาประชุมร่วมกันว่าให้ไปตรวจสอบว่าในพื้นที่ มีหม้อแปลงไฟฟ้าที่เก่าเกินอายุที่สมควร คือ มากกว่า 20 ปี หรือไม่ เพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่าเบื้องต้นพบอาคารที่สองและที่สามในจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหายมากที่สุดที่บริเวณชั้นสองและชั้นสาม ซึ่งถือว่าไม่มีความปลอดภัยของตัวอาคารเนื่องจากลักษณะอาคารเป็นอาคารที่มีการต่อเติมชั้นเหล็กขึ้น และตัวอาคารโดนความร้อนเป็นระยะเวลานานทำให้โครงสร้างอาคารที่เป็นส่วนรับน้ำหนักมีการแอ่นตัว ซึ่งตนเองมีความเห็นว่าควรต้อง ทำการหรือถอนอาคารที่สองและที่สามออกเพื่อความปลอดภัยส่วนอาคารริมที่เป็นอาคารที่หนึ่งและอาคารที่สี่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีโครงสร้างบางส่วนเสียหายแต่ยังสามารถซ่อมแซมเสริมแนวคานรับน้ำหนักของตัวอาคารเพื่อใช้งานอาคารต่อได้ แต่ต้องมีการให้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านวิศวกรเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างเพื่อ ตรวจสอบเกี่ยวกับความมั่นคงอาคารอีกครั้ง

ด้าน นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (เสื้อเชิ้ตขาวหมวกการไฟฟ้าสีเขียว) ยืนยันว่า หม้อแปลงลูกดังกล่าวไม่ได้เปิดใช้งานมา10วันแล้วเนื่องจาก อยู่ในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบระบบภายในและสายไฟที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ ก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ได้มาเตรียมการเปิดใช้งาน เปิดสวิตซ์ เพื่อให้กระแสไฟเข้าสู่ระบบ แต่ในช่วงระหว่างเดินทางกลับไปเพื่อรายงาน ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟดับ และเกิดเพลิงไหม้

ผู้สื่อข่าว สอบถามอีกว่า ชาวบ้านร้องเรียนว่า วันศุกร์ที่ผ่านมาได้รับแจ้งว่าหม้อแปลงขัดข้องหรือไม่เนื่องจากมีประชาชนหลายคนพูดตรงกันว่า เห็นกลุ่มควันจากหม้อแปลงไฟฟ้า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ขอกลับไปตรวจสอบอีกครั้งว่าวันศุกร์เรื่องนี้หรือไม่ ในส่วนที่ผู้เสียหายกังวลว่าจะได้รับการเยียวยาหรือไม่นั้น

นายวิลาศ ระบุว่า ต้องพิสูจน์สาเหตุของการเกิดเหตุก่อน ซึ่งหมายถึงการตรวจ พิสูจน์ระบบด้านในหม้อแปลงไฟฟ้าร่วมกับพิสูจน์หลักฐานกลาง หากเป็นความผิดพลาดของการไฟฟ้าจริง ก็ยินดีที่จะเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับกระทบโดยตรงจากเหตุหม้อแปลงขัดข้อง ซึ่งยังไม่สามารถลงรายละเอียด ได้ว่าจะรับผิดชอบส่วนไหนอย่างไรขณะนี้อาจจะเร็วเกินไปต้องรอให้ได้ผลสรุปก่อน แต่ของการไฟฟ้ายืนยันว่าจะดำเนินการชดใช้ตามขั้นตอนทางกฎหมายที่การไฟฟ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งลำดับแรก จะมีการพูดคุยกับผู้เสียหายก่อน เพื่อทำความเข้าใจก่อนหากตกลงกันได้จะได้ไม่ถึงขั้นตอนของการฟ้องร้องทางกฎหมาย

ขณะที่นายเกียรติศักดิ์ แซ่แต้ อายุ 40 ปี(เสื้อเชิ้ตสีฟ้า) เจ้าของร้านพิชิตชัยค้าของเล่นเด็ก ซึ่งอยู่ติดกับห้องต้นเพลิง บอกว่า เมื่อวานนี้ร้านปิด ไม่เช่นนั้นตนเองและลูกจ้างอีก 5-6 คนไม่รู้จะมีชะตากรรมจะเป็นเช่นไร จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สินค้าและโครงสร้างอาคารได้รับความเสียหายทั้งหมด ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หลังจากนี้ทั้งตนเองรวมถึงผู้เสียหายรายอื่นๆ จะฟ้องร้องกับการไฟฟ้านครหลวง เพื่อให้ร่วมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น

นายเกียรติศักดิ์ บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ สายไฟและหม้อแปลงมีปัญหาบ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. หม้อแปลงลูกนี้ก็เพิ่งมีปัญหา มีเสียงคล้ายเกิดการช็อตจนชาวบ้านต้องแจ้งเจ้าหน้าที่มาดู แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไขเพียงชั่วครู่แล้วกลับไป จนมาครั้งนี้ เกิดความเสียหายมากที่สุดจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก การไฟฟ้านครหลวงควรต้องรับผิดชอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บึ้มสนั่นกลางดึก ชาร์จรถ 3 ล้อไฟฟ้า เกิดไฟฟ้าลัดวงจรลามไหม้ร้านของชำ หวิดวอดทั้งหลัง
กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เตือนภาคใต้มีฝนตกบางแห่ง
"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต
“ไทด์” แฉลึก! ยศใหญ่โทรปิดเกม สั่งย้าย “แตงโม” เข้านิติเวช รพ.ตำรวจ
เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น