จากกรณีเกิดเหตุระเบิดภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซ.กิ่งแก้ว 21 หมู่ที่ 15 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์รายงานว่า จากการเข้าสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ ในรัศมี 5 กิโลเมตรนั้น พบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายหลังคาเรือน ซึ่งส่วนมากอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ อีกส่วนย้ายไปอยู่บ้านญาติ ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10-20 กิโลเมตร
ขณะที่ นายสุขสันต์ เสมือนโพธิ์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านริมคลองวัดกิ่งแก้ว เล่าว่า ตนไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ แต่พ่อ แม่ ลุง ป้า พี่สาวและหลาน อาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งในวันเกิดเหตุทุกคนในบ้านได้ยิงเสียงคล้ายระเบิดจริง แต่คิดว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าธรรมดา ประกอบกับยังไม่ได้กลิ่นสารพิษใดๆ จึงไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งช่วงเช้าเปิดหน้าต่างเห็นว่ามีควันดำลอยเต็มหน้าบ้าน และมีแสงไฟ ประกอบกับเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ ลอยมาด้วย
จากนั้นไม่นานก็มีเสียงตามสายของชุมชนประกาศให้คนที่อยู่ในบ้านอพยพออกจากบ้านให้เร็วที่สุด รวมทั้งนำข้าวของมีค่าออกมาจากบ้านด้วย ซึ่งตอนนั้นชุลมุนค่อนข้างมาก เพราะแต่ละคนหนีตายกันจ้าละหวั่น บางคนวิ่งออกจากบ้าน โดยที่ไม่หยิบข้าวของอะไรติดไม้ติดมือมาเลย เนื่องจากห่วงชีวิตมากกว่า และผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่ยอมออกจากบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปพูดคุย และทำความเข้าใจ ก่อนจะยอมออกจากบ้านแต่โดยดี เบื้องต้นตนได้พาพ่อ แม่ ลุง ป้า พี่สาวและหลานๆ ออกไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งห่างจากบ้านหลังนี้พอสมควร ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่โล่งกว้าง และอากาศถ่ายเทสะดวก
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้กลับมาเอายาประจำตัวผู้ป่วย และสังเกตดูความเสียหายภายในบ้าน พบว่าบริเวณห้องพระ ห้องโถง ห้องนอนหลาน ฝ้า หล่นกระจายเต็มพื้น ใกล้กันพบกระจกและประตูบานเลื่อนห้องพระแตก และหลุดออกจากร่อง ตู้เย็นไหลไปหน้าห้อง ประตูห้องหลุด และข้าวของตามชั้นกระจัดกระจาย ซึ่งจากการสังเกตด้วยตาเปล่า มีมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 50,000 บาท
อีกทั้งคิดว่า พ่อ แม่ และญาติ อยากจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังเดิม เนื่องจากผูกพันมากกว่า แต่ตนขอร้องว่าอย่าเพิ่งกลับมา เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย ประกอบกับดูข้อมูลข่าวสารผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ จึงยังรู้สึกกังวลและยังไม่แน่ใจที่จะให้พ่อ แม่และญาติๆ กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่จะไปอยู่ที่อื่นก็คงไม่ได้ จึงอยากวอนขอหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในบริเวณแห่งนี้ให้ได้มากที่สุด
ขณะเดียวกัน อยากจะขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่มาปฏิบัติงานและช่วยเหลือประชาชนในที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คือมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย ซึ่งตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะตนเป็น 1 คนที่ติดตามการทำงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด จึงรู้สึกประทับใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกนาย
อย่างไรก็ตาม บ้านของนายประทีป หมอนทอง ประธานกองทุนหมู่บ้าน หมู่15 คลองชวดลากข้าว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานเพียง 500 เมตร จากการสังเกตด้วยตาเปล่า จะเห็นได้ชัดว่ากระจกที่อยู่บริเวณหน้าบ้านหลุดออกจากบาน และหล่นทับกระถางต้นไม้ เมื่อเข้าไปในบ้าน พบว่ากรอบรูป และข้าวของต่างๆ กระจัดกระจายเต็มพื้น ใกล้กันพบห้องนอน ฝ้า ผ้าม่านหลุดออกจากราง ขณะที่ชั้น2 ของบ้าน พบว่าแผ่นฝ้าเปิดออก ทำให้เห็นพื้นหลังคา เมื่อมองลอดหน้าต่างออกไป จะเห็นหลังโรงงานที่เกิดเหตุได้อย่างชัดเจน