เบื้องลึกพลังประชารัฐ จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง สะท้อนความขัดแย้ง ไร้เสถียรภาพ

เบื้องลึกพลังประชารัฐ จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง สะท้อนความขัดแย้ง ไร้เสถียรภาพ

หลังจากพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จัดทัพใหญ่เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยการแบ่งพื้นที่ให้แกนนำพรรคแต่ละคนรับผิดชอบ พร้อมจัดกิจกรรมโรดโชว์เดินสายพรรคแต่ละภาค ประเดิมคิวแรกวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ เวลา 17.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ถิ่นของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และในฐานผอ.พรรค

อย่างไรก็ตามการแบ่งพื้นที่ให้แกนนำพรรคแต่ละคนรับผิดชอบ มองผิวเผินอาจจะไม่ใช่เรื่องผิดแปลก แต่เมื่อเจาะลึกไปในรายละเอียดก็พบว่า มีหลายพื้นที่ที่เต็มไปด้วยปัญหา และอาจไม่เป็นผลดีในการเตรียมทัพสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ เช่น พื้นที่กทม.และภาคใต้ พื้นที่นี้พลเอกประวิตรขอรับผิดชอบเอง โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค มาช่วยดูภาคใต้ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และหัวหน้านโยบายพรรค มาช่วยดูกทม.

ซึ่ง กทม.ถือเป็นพื้นที่ที่สร้างปัญหาในพรรคพลังประชารัฐในช่วงหลัง เพราะย้อนไปในช่วงหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก. พรรคมอบหมายให้นายอภิชัย เตชะอุบล หรือ เสี่ยโต ที่ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์คุมทัพ แต่ก็เกิดความขัดแย้งกับนางนฤมล เพราะนางนฤมล ไม่ยอมรับคำสั่งที่นายอภิชัยแต่งตั้งให้เป็นประธานยุทธศาสตร์หาเสียงร่วมกับผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ก.ของพรรค โดยนางนฤมลอ้างว่า พลเอกประวิตรไม่ได้รับมอบหมาย เมื่อนับถอยหลังศึกเลือกตั้งใหญ่ นายอภิชัยถูกเขี่ยทิ้ง พลเอกประวิตรดันนางนฤมลมาช่วยคุมพื้นที่กทม.แทน ก็ต้องจับตาว่าจะเกิดปัญหาอะไรอีกหรือไม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนพื้นที่ภาคใต้ การมอบให้นายสมศักดิ์มาดูช่วย ก็เพราะภายในพรรคขาดหัวดูแลภาคใต้ เนื่องจากก่อนหน้านี้พื้นที่ภาคใต้ มีร้อยเอกธรรมนัสดูแล และโชว์ผลงานนำผู้สมัครของพรรคชนะผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช แต่การเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร และสงขลา พรรคมอบนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง คุมเลือกตั้งซ่อมชุมพร นายสุชาติ ชมกลิ่น คุมเลือกตั้งซ่อมสงขลา แต่ผลการเลือกตั้ง พลังประชารัฐแพ้เรียบ ประกอบกับการที่ร้อยเอกธรรมนัสออกจากพรรคไปแล้ว ส.ส.ภาคใต้เองก็ยังไม่มีใครที่มีบารมีมากพอจะเป็นแม่ทัพคุมเอง พรรคจึงโยนภารกิจนี้ให้นายสมศักดิ์ เจ้าพ่อวังน้ำยม มาคุมทัพสู้ศึกเลือดตั้งส.ส.แดนสะตอแทน

ภาคต่อมาที่อาจจะมีปัญหาคือ ภาคอีสาน ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ พื้นที่อีสานใต้กับพื้นที่อีสานเหนือ

โดยอีสานใต้ พลเอกประวิตรมอบหมายให้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. บัญชีรายชื่อ รับผิดชอบ ซึ่งสะท้อนว่าพลเอกประวิตรยังมีความเกรงอกเกรงใจ ไม่มีความเด็ดขาด เพราะแม้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานายวิรัช จะโชว์ฝีมือนำพลังประชารัฐกวาดเก้าอี้ ส.ส.นครราชสีมา ได้ถึง 6 ที่นั่ง แต่ในปัจจุบันตัวของนายวิรัชนั้น ยังลูกผีลูกคนว่าจะยังอยู่กับพรรคหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวหนาหูว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า นายวิรัชอาจย้ายพรรคไปซบค่ายสีน้ำเงินของเสี่ยหนู เห็นได้จากงานการเมืองท้องถิ่น กลุ่มของนายวิรัชก็ไปจับมือเป็นพันธมิตรกับกลุ่มของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แห่งพรรคภูมิใจไทย แต่หากไม่มีที่ว่างในภูมิใจไทย นายวิรัชก็ยังมีอีกหนึ่งตัวเลือกคือ พรรคเศรษฐกิจไทยของร้อยเอกธรรมนัส ที่เคยร่วมสู้กันมาเมื่อครั้งอยู่พรรคพลังประชารัฐ ที่สำคัญเมื่อร้อยเอกธรรมนัสไปตั้งใหม่ ก็หิ้ว 2 ส.ส.นครราชสีมา ที่เป็นเด็กในคาถาของนายวิรัช ได้แก่นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ และนายเกษม ศุภรานนท์ ไปอยู่ด้วย

 

อีสานเหนือ พื้นที่นี้ถูกมองว่ามีปัญหา เพราะมีชื่อของ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ซึ่งจะพ้นจากการเป็น ส.ว. ครบ 2 ปีในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 มาช่วยงานพลเอกธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาค 2 ในฐานะกรรมการบริหารพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ซึ่งหลายคนตั้งคำถามว่า เหตุใดพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ถึงได้รับมอบหมายให้มาช่วยดูแลพื้นที่นี้ ทั้งที่หลังเกษียณเจ้าตัวทำการเมืองในพื้นที่เมืองหลวงมาตลอด ถึงขั้นเคยเตรียมลงสมัครผู้ว่าฯกทม. โดยใช้ตึกที่ทำการเก่าพรรคพลังประชารัฐเป็นสถานที่ทำงาน แต่สุดท้ายต้องจำใจหลีกทางให้พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง เพราะพรรคพลังประชารัฐให้การสนับสนุน ซึ่งการมอบหมายให้พลตำรวจเอกจักรทิพย์ช่วยดูแลอีสานเหนือ เมื่อสืบไปสืบมาก็พบว่า เป็นการหาที่ลงให้พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เพื่อให้เจ้าตัวยังมีบทบาทสำคัญในพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น เพราะความจริงแล้วพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ก็ยังคาดหวังจะได้ดูแลพื้นที่กทม. แต่พลเอกประวิตรของรับผิดชอบเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อรรถวิชช์-พงศ์พล-ฐิติภัสร์” พร้อมใจโพสต์ปกป้อง “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” หลังสื่อทำเนียบตั้งฉายา “พีระพัง” ลั่นพร้อมพังทุกรูปแบบการโกงกิน
"การรถไฟฯ" ออกแถลงการณ์ ยันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ "ที่ดินเขากระโดง" เดินหน้าทวงคืนตามกม. ไม่ใช่ละเมิดสิทธิปชช.
‘อี้ แทนคุณ’ พาเหยื่อร้องปคม. ถูกหลอกข้ามแดนลวงเปิดบัญชีม้า หลังพบมีหมาย 450 คดี
คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 รถไฟฟ้าบีทีเอส - สายสีทอง ขยายเวลาให้บริการถึงตี 2
“เพื่อไทย” จัดเต็ม ชาวเชียงใหม่เรือนหมื่นแห่ฟัง “ทักษิณ” สว.ก๊องมั่นใจ พ่อใหญ่แม้วช่วยหาเสียงชนะแน่
ชาวบ้านทรุดก้มกราบ “ทักษิณ” ขอปรึกษาปัญหาชีวิต การ์ดรีบยกตัวออก
เกมแล้ว! หนุ่มแต่งรถประดับไฟสี ธีมคริสต์มาส ขับเฉิดฉายทั่วถนน ปรับฉ่ำๆ 2 ข้อหา
แจ้ง 4 ข้อหาหนัก 'อส.เมากร่าง' ยิงสนั่นกลางร้านข้าวต้ม ดับ 2 ศพ เปิดวงจรปิดอีกมุม เห็นวินาทีก่อเหตุชัด
ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ "ผู้จัดหาบัญชีม้า" แก๊งลวง "ชาล็อต" กว่า 4 ล้านบาท
“บิ๊กอ้วน”ซัดปาก! พวกกระหายสงคราม “บิ๊กปู” คอนเฟิร์ม “ว้าแดง” เรียบร้อยดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น