“กรมราชทัณฑ์” เผยปมทำ 3 ผู้ต้องขัง กลุ่มทะลุแก๊ส เครียด เร่งตั้งกก.สอบแล้ว

กรมราชทัณฑ์ เร่งตั้งกรรมการสอบปม 3 ผู้ต้องขัง กลุ่มทะลุแก๊ส ทำร้ายตัวเอง-กินยาเกินขนาด เผยสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากความเครียดเรื่องคดีและภรรยากำลังตั้งครรภ์

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีผู้ต้องขัง กลุ่มทะลุแก๊ส รับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด รวมถึงการทำร้ายตัวเองด้วยของมีคม ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบว่าผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว จำนวน 3 ราย ได้แก่

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้ต้องขังชาย ใบบุญ (ขอสงวนนามสกุล) และผู้ต้องขังชาย พุฒิพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือตนเอง พร้อมด้วย ผู้ต้องขังชาย พลพล (ขอสงวนนามสกุล) รับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด เป็นเหตุต้องนำส่งไปรักษาตัวยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอาการเบื้องต้น ณ วันที่ 27 มิ.ย.65

ผู้ต้องขังชาย พลพล มีอาการดีขึ้น รู้สึกตัวได้ดี พูดคุยรู้เรื่องช่วยเหลือตัวเองได้ ยังรับประทานอาหารได้มากขึ้น ไม่มีอาการปวดท้อง แต่ยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเล็กน้อย นอนหลับได้ อาการเครียดดีขึ้นตามลำดับ อยู่ระหว่างการรักษาสังเกตอาการใกล้ชิด จากการสอบถามโดยนักจิตวิทยา ผู้ต้องขังชาย พลพล แจ้งว่าสาเหตุจากการกระทำดังกล่าว เกิดจากความเครียดในเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเป็นห่วงภรรยาที่ตั้งครรภ์ และเรื่องคดีความของตนเอง แต่ก็จะพยายามปรับตัว ไม่คิดมากให้เกิดความเครียดอีก

ในส่วนของผู้ต้องขังชาย ใบบุญฯ และ ผู้ต้องขังชาย พุฒิพงศ์ฯ ที่ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือตนเองนั้น พบว่ามีบาดแผล แต่ไม่รุนแรง พยาบาลประจำเรือนจำได้ทำการรักษาล้างแผลให้ทุกวัน โดยสาเหตุของการกระทำดังกล่าว แจ้งว่าเกิดจากความกังวลเรื่องทนายไม่มาติดต่อหรือพูดคุย แต่หลังจากได้เยี่ยมญาติและพบทนายแล้ว ทั้ง 2 ราย ก็รู้สึกเกิดความผ่อนคลายมากขึ้น

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดและได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลักลอบนำยาพาราเซตามอลที่มีจำนวนมาก และการทำร้ายตัวเองด้วยของมีคมดังกล่าวแล้ว เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งกรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิตของผู้ต้องขังทุกราย และมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เมื่อผู้ต้องขังเกิดความเครียดที่ต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ โดยกำชับให้ทุกเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งมอบหมายนักจิตวิทยา เข้าดูแลพูดคุยกับผู้ต้องขังเพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และเท่าเทียมกัน เพื่อมิให้เกิดการทำร้ายตัวเองขึ้นอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กทม.สรุปยอดเก็บ "กระทง 2567" ทั่วกรุงเทพฯ จำนวนลดลง 20% ส่วนใหญ่ใช้วัสดุธรรมชาติ
"สปสช." เร่งสรุปความเห็น บัตรทองกว่า 700 ข้อ ให้เพิ่มค่าบริการ-จ่ายเงินเร็ว-ปรับชดเชยราคายา
"สุชาติ" ร่วมเปิดงาน ห้วยสุครีพสายน้ำแห่งชีวิต สืบสานวิถีถิ่นบางพระ
นักท่องเที่ยวแห่ร่วมเทศกาลลอยกระทงพัทยา
"DSI" เตรียมประสานงานขอคลิปเสียง "หญิงสาวรายหนึ่ง" อ้างให้เงินสินบน 10 ล้าน มาตรวจสอบ
“วราวุธ” ส่ง ศรส. ช่วยดญ. 3 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย บาดแผลทั่วตัว-ฟันหัก 4 ซี่ แพทย์รับรักษาตัว ตา-น้า ดูแลใกล้ชิด
"นายกฯ" ย้ำหนุนเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อช่วยเหลือกลุ่ม MSMEs ในอาเซียนกลางวงสภาที่ปรึกษาธุรกิจของเอเปค
“เอกนัฏ” เปิดปฏิบัติการสุดซอย ปิดโรงงานเถื่อนเขตฟรีโซน ลั่นต้องเอาผิดถึงที่สุด
กทม.ลุยเก็บ-คัดแยก "กระทง" แม่น้ำเจ้าพระยา 67 ก่อนนำกำจัดอย่างถูกวิธี
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือน 30 จังหวัด รับมือฝนฟ้าคะนอง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น