"วัคซีนโควิด" FDA สหรัฐ แนะบริษัทยาผลิตวัคซีนตัวใหม่ รองรับโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 คาดพร้อมผลิตปลายปีนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
“วัคซีนโควิด” คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เกี่ยวข้องของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ FDA ได้จัดการประชุมและออกคำแนะนำให้เปลี่ยนแปลงสูตรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อที่จะต่อสู้กับเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาด โดยผลโหวต 19 ต่อ 2 ต้องการให้วัคซีนเข็มกระตุ้นตัวใหม่จัดการโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ซึ่งปัจจุบัน แพร่ระบาดมากกว่าสายพันธุ์ BA.1 ที่แพร่ระบาดมากในฤดูหนาวปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม คำสั่งว่าจะเปลี่ยนสูตรวัคซีนหรือไม่จะเกิดขึ้นภายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้
โดยปัจจุบัน วัคซีนเข็มกระตุ้นที่ออกแบบไว้ เป็นวัคซีนที่มุ่งป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1 ซึ่งดร.ปีเตอร์ มาร์คส์ ผู้อำนวยการศูนย์การประเมินและวิจัยด้านชีววิทยาของ FDA ให้ข้อมูลว่า วัคซีนตัวนี้จะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม พร้อมกันนี้บริษัทไฟเซอร์,โมเดอร์นา และโนวาแวกซ์ ก็ได้นำเสนอผลการทดสอบวัคซีนป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1 ต่อที่ประชุมด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โมเดอร์นากล่าวว่า วัคซีนป้องกัน BA.1 ของโมเดอร์นาจำนวน 2-3 ล้านโดส จะเข้าสู่ตลาดภายในเดือนกันยายน แต่หากต้องเปลี่ยนสูตรเพื่อใช้ป้องกัน โอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ ก็จะต้องเลื่อนออกไปเป็นปลายเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายน ด้านไฟเซอร์ก็กล่าวว่า บริษัทมีวัคซีน BA.1 จำนวนมากพร้อมส่งแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำวัคซีน BA.4 และ BA.5 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวต้นเดือนตุลาคม
ส่วนองค์การอนามัยโลก และหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาระดับโลก ยังคงไม่ฟันธงว่าวัคซีนสูตรใดดีกว่า เนื่องจาก องค์การอนามัยโลกเห็นว่า วัคซีนป้องกัน BA.1 นั้นสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ครอบคลุมกว่า ซึ่งหมายถึง ความสามารถของวัคซีนที่ดีกว่าในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และการรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม วัคซีน BA.1 มีประสิทธิภาพป้องกัน BA.4 และ BA.5 ได้แต่จะอยู่ในระดับที่น้อย ดังนั้น องค์การอนามัยโลกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะจัดการประชุมเพื่อหาข้อชัดเจนต่อไปในวันพฤหัสบดีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง