500 หรือ 100 หาร “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” เอาไง

สภาเตรียมประชุมชี้ขาดวาระ 2 และ 3  “5-6 ก.ค.”นี้  ประวิตรยังอุบไต๋ไปทางไหนดีโบ้ยไม่รู้อย่างเดียว ด้านหมอระวีพรรคเล็กยังไม่หมดหวัง หลังส.ส.หลายพรรคเริ่มเข้าใจ ส.ว.ส่วนใหญ่ 80 % เริ่มคล้อยตาม  ลุ้นประชุมร่วมรัฐสภาสัปดาห์หน้า  คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อจะออกทางไหน 100 หารเข้าทางทักษิณ หรือ 500 หารเป็นคุณกับพล.อ.ประยุทธ์ ได้ประโยชน์กับพรรคฝ่ายรัฐบาล  

ใกล้จะถึงวันชี้ชะตากฎหมายลูก 2 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.  ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้  หลังถูกยื้อถูกเลื่อนมานานเพราะติดที่ต้องพิจารณากฎหมายหลายฉบับที่ค้างมานาน โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ตำรวจที่เลื่อนมาหลายรอบให้เสร็จสิ้นก่อน  ล่าสุดได้ฤกษ์นัดถกกฎหมายลูกกันแล้วหากไม่เป็นวันอังคารที่ 5 ก.ค.ช่วงเย็นก็จะเริ่มกันในวันพุธที่ 6 ก.ค.ตอนเช้า  ประเด็นหัวใจที่เป็นไฮไลต์สำคัญของการพิจารณาในคราวนี้  หนีไม่พ้นการเคาะสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อว่าตกลงจะใช้สูตรหารแบบไหนดี  ระหว่าง 500 หาร หรือ 100 หาร  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ได้มีการลงมติเมื่อ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา  ในประเด็นวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยเสียงส่วนใหญ่ของ กมธ.เห็นด้วยกับสูตร 100 หาร  32 เสียง ไม่เห็นด้วย 11 เสียง และ งดออกเสียง 2 เสียง

ชัดเจนว่าในมติของคนที่ไม่เห็นด้วย 11 เสียง ประกอบด้วยส.ส.พรรคเล็กที่ค้านสูตร 100 หารมาตลอด อย่าง สมชัย ศรีสุทธิยากร  ตัวแทนจากพรรคเสรีรวมไทย รวมถึง นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ที่ออกตัวเรื่องนี้อย่างแข็งขันหนักแน่นว่า  หากใช้การคิดสูตร 100 หาร รับรองว่าพรรคเล็กสูญพันธุ์แน่  ไม่มีทางที่พรรคการเมืองใหม่ พรรคทุนน้อย ส.ส.ตัวจ้อยจะได้เข้าสภา  เพราะอย่างต่ำๆ ถ้าคิดตามสูตรนี้แต่ละพรรคต้องได้คะแนนรวมทั้งประเทศสูงถึง 350,000 คะแนนหรือ 400,000 คะแนนจึงจะได้ส.ส. 1 คน  แถมระบบวิธีการคิดคำนวณส.ส.แบบใหม่ก็ไม่มีการเอาคะแนนตกน้ำมาคิด เพราะฉะนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการปิดทางพรรคเล็กปิดโอกาสผู้แทนทุนน้อยไม่ให้ลืมตาอ้าปากทางการเมือง  แตกต่างจากการคิดคำนวณสูตร 500 หาร ที่จะใช้คะแนนส.ส. 1 คนราว 75,000 คะแนน ถึง 150,000 คะแนน เพราะฉะนั้นตรงนี้จะทำให้พรรคเล็กมีโอกาสมากกว่า  รวมถึงการคิดสูตรคำนวณ 100 หาร ก็ขัดรัฐธรรมนูญมากถึง  2 บท คือ ม.93 และ ม.94 แถมยังขัดเจตนารมย์ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ  ขณะที่การใช้สูตร 500 หาร อาจขัดรัฐธรรมนูญ ม.91 แต่ก็ตรงตามเจตนารมย์ส่วนใหญ่ของรัฐธรรมนูญ

นอกเหนือจาก 2 ตัวแทนพรรคเล็กที่ไม่เห็นด้วยกับสูตร 100 หารแล้ว   ที่เหลืออีก 9 เสียง  ล้วนเป็นส.ว.ทั้งหมด หนำซ้ำยังเป็นส.ว.ที่ถูกระบุว่าเป็นสายลุงตู่เป็นฝ่ายเพื่อนนายกฯล้วนๆ   ได้แก่  พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ นางสุวรรณี ศิริเวชชะพันธ์ นางวรารัตน์ อติแพทย์ น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ นายกิตติ วะสีนนท์ และ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม  ส่วนที่งดออกเสียง 2  คน คือ  “เสี่ยตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธาน กมธ. และ ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ตัวแทนฝ่ายส.ว.  ขณะที่เสียงส่วนใหญ่ในชั้นกมธ.ซึ่งเป็นตัวแทนจากครม.พรรคพลังประชารัฐ  พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งถูกมองว่าเป็นสายลุงป้อมฝ่ายประวิตร  และรวมถึงพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลต่างสนับสนุนสูตร 100 หารอย่างพร้อมเพรียงกัน

ปัญหาเลยเกิดอย่างที่เห็น คือ เสือสองตัวมองคนละมุมกัน  ประยุทธ์อยากไปทางหาร 500 แต่ประวิตรอยากได้ 100 หาร  ไปๆมาๆ มันก็เลยชุลมุนเพราะผู้ยิ่งใหญ่สองคนมองเห็นไม่ตรงกัน ฝ่าย 100 หารของพล.อ.ประวิตรนอกจากจะมีคนในพรรคพลังประชารัฐ อย่าง ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค หนึ่งในกมธฯ เป็นตัวตั้งตัวตีสนับสนุนแล้ว  ยังมีพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ฯลฯ ที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้รวมถึงพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านตรงข้ามกัน  เหตุผลที่อยากหาร 100 ก็ชัดเจนว่าเพื่อสกัดพรรคเล็กไม่ให้เข้ามามีส่วนแบ่งในสัดส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ  ย้อนกลับไปตอนเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562  สัดส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน  ถูกกระจายไปตามพรรคต่างๆ ตามสูตรการคิดคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม มีเพดานขั้นต่ำ มีส.ส.พึงมี  ทุกคะแนนไม่ตกน้ำ ผลปรากฎว่าหลังการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเลยแม้แต่คนเดียว

ส่วนพรรคการเมืองที่ได้มากที่สุด คือ พรรคอนาคตใหม่ (ก้าวไกล) 50 คน  พรรคพลังประชารัฐ 19 คน  พรรค  พรรคประชาธิปัตย์  19 คน  พรรคภูมิใจไทย 12 คน  ที่เหลืออีก 49 คน มาจากพรรคเล็กๆ ต่ำสิบ อาทิ พรรคเสรีรวมไทย 10 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 4 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 4 คน  พรรคพลังท้องถิ่นไทย 3 คน พรรคชาติพัฒนา 2 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน ที่เหลือกระจายไปยังพรรคเล็กๆ 13 คน   จะเห็นได้ว่าสัดส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อคราวก่อนพรรคเล็กได้ไปถึง 1 ใน 3  มารอบนี้พรรคใหญ่เลยหัวหมอรวมตัวกันปิดกั้นสกัดพรรคเล็ก  สุดท้ายเลยกลายเป็นที่มาของการเคาะสูตร 100 หาร  ต้องมีคะแนนทั่วประเทศอย่างน้อย 350,000 -400,000 คน ถึงจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน  เงื่อนไขนี้จึงกลายเป็นเรื่องยากมากๆที่พรรคเล็กๆ จะหาคะแนนถึงจำนวนนั้นได้  ที่สุดส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ตามสัดส่วนใหม่ 400 ต่อ 100 ก็ตกอยู่ในมือของพรรคใหญ่ทั้งหมด นั้นจึงกลายเป็นที่มาให้บางคนในพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์  รวมถึงพรรคเพื่อไทย ที่ล้วนเป็นพรรคการเมืองใหญ่พรรคมีชื่อพรรคที่มีฐานคะแนนพรรคอยากใช้สูตรนี้  ในชั้นกมธฯก็เคาะสูตร 100 หารมาแล้ว ในร่างของกกต.ก็คิดสูตร 100 หารมาตลอด  จะเปลี่ยนกลับไป 500 หารก็คงลำบาก ตอบสังคมได้ยาก เพราะฉะนั้นโอกาสไปทางนี้จึงมีสูง

อย่างไรก็ตามการใช้สูตร 100 หาร ก็เป็นดาบสองคม  เพราะนอกจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้อาณิสงฆ์จากเรื่องนี้แล้ว พรรคเพื่อไทยฝ่ายตรงข้ามก็ได้ประโยชน์ไปด้วย  แถมจะได้แบบเต็มๆ อย่าลืมว่าคราวก่อนพรรคเพื่อไทยได้คะแนนดิบทั่วประเทศ 7,881,006 คะแนน แต่ไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียวเพราะโดนวิธีการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมบล็อคไว้ แต่มารอบนี้หากใช้วิธีการเลือกตั้ง ณ ปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพิ่มมาอีก คิดคร่าวๆ อย่างน้อยก็ 20 กว่าคน บวกลบคูณหารกับส.ส.เขตเดิม 136 คน ก็ได้ส.ส.เกือบ 160 คนแล้ว  นี้แค่คิดเล่นๆจากฐานคะแนนเดิมตอนปี 2562 ที่พรรคเพื่อไทยอยู่ในช่วงขาลง พรรคพลังประชารัฐขาขึ้น กลับกันถ้าเลือกตั้งทั่วไปเกิดในต้นปีหน้าคะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยจะพุ่งสูงขนาดไหน ตลอดเวลาที่ผ่านมาข่าวว่ามีความพยายามจากแกนนำพรรคพลังประชารัฐหลายต่อหลายคน พยายามเอาสูตร 500 หาร กับ สูตร 100 หาร ไปกางไปคิดไปวิเคราะห์ให้บิ๊กป้อมดู  แต่หัวหน้าพรรคพี่ใหญ่ 3 ป.ก็ยืนกรานเอาสูตร 100 หาร   ขนาดหมอระวียกพลพาส.ส.พรรคเล็กไปหาถึงเซฟเฮ้าส์ มูลนิธิป่ารอยต่อ ใน ร.1 รอ.  พล.อ.ประวิตรยังตีมึนไม่รู้ไม่ทราบให้ไปคุยกับวิปรัฐบาลเอง ล่าสุดให้สัมภาษณ์สื่อยังโบ้ยไปน้ำขุ่นๆว่า “ ไม่รู้ ไม่รู้ ให้ไปถามสมาชิกพรรค ”

นับถอยหลังเหลือเวลาไม่ถึง 9 เดือนจะครบอายุสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 มิ.ย.2566  เป็นอย่างนี้ก็แสดงว่าเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกที  เรื่องสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อมต้องเอาให้ชัด 500 หรือ 100 หารดี  การพิจารณาวาระ 2 และ 3 กำลังรออยู่ตรงหน้า จะเอายังไงจะไปทางไหนต้องคุยกันให้ชัด อย่าฟังแต่คนใกล้ชิดอย่าเอาแต่ใจตัวเอง  ให้ไปดูกระแสพรรคเพื่อไทย ให้ไปดูผลโพลอุ๊งอิ๊งแล้วค่อยตัดสินใจ อย่าปล่อยให้คาราคาซังจนต้องไปซัดกันในสภา รอบก่อนในชั้นกมธฯก็ฟัดกันมายกหนึ่งแล้ว รอบนี้จะมาประลองกำลังกันอีกครั้งดูท่าจะไม่งามเพราะเป็นพวกเดียวฝ่ายเดียวกัน แตกหักขึ้นมาในสภาจะเสียหายกันทั้งหมดพังกันทั้งลำ หมอระวีหัวหอกฝั่ง 500 ยังมั่นใจมีโอกาสเกมส์พลิกหลังส.ว.80 % เริ่มคล้อยตาม ส่วนส.ส.พรรคต่างๆก็เริ่มเห็นด้วย ตอนนี้ก็เหลือแต่หัวขบวนอย่างพล.อ.ประวิตรจะคิดได้คิดทันไหม หากยังดื้อฝืนใช้ 100 หารมีแต่ทางตันเพราะเข้าทางพรรคเพื่อไทยเข้าตีนทักษิณแบบเต็มๆ พล.อ.ประวิตรเดินหมากวางเกมส์พลาดมาหลายครั้งแล้ว เป็นรัฐบาลอำนาจอยู่ในมือ  อย่าไปตีโง่เขียนกติกาให้ศัตรูมีโอกาสชนะ สู้กับระบอบทักษิณต้องรอบครอบแยบยล  เดินหมากผิดตัวเดียวอาจแพ้ทั้งกระดาน  รอบนี้ยังมีเวลาอย่าเดินผิดซ้ำซากอีก  ไม่งั้นงานนี้อาจเดือดร้อนถึงศาลรัฐธรรมนูญ  จับตาสัปดาห์หน้า กฎหมายลูกจะจบลงอย่างไร

////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สยอง ! ต่างด้าวปาดคอสาวไทยปางตาย จนท.เร่งล่าตัว
ศาลเบิกตัว "เมียทนายตั้ม" คดีร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน ไต่สวนขอประกันตัว
“บขส.” จัดรถโดยสารกว่า 4,800 เที่ยววิ่ง เที่ยวเสริม 1,000 คัน อำนวยความสะดวกให้ปชช.ช่วงปีใหม่ คาดเดินทางวันละนับแสน
สวนนงนุชพัทยา จัดส่งท้ายปีเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระฟรีตลอดเดือนธันวาคม 2567
รวบหญิงต่างด้าว 6 ราย ลักลอบทำเล็บ-เสริมสวย แย่งอาชีพคนไทย
อากาศหนาวมาอีกระลอก อุณหภูมิลดลงแตะ 10 องศาฯ นทท.แห่ขึ้นพิชิตยอดภูกระดึงคึกคัก
"ดร.เอ้" ชี้เหตุคานเหล็กถล่มเกิดซ้ำซาก ปัญหาหลัก ไร้หน่วยงานอิสระตรวจสอบ ปล่อยผู้รับเหมาผิดพลาด
รถติดหนัก แนะเส้นทางเลี่ยง "คานก่อสร้างทางยกระดับ" พระราม 2 พังถล่ม เสียชีวิต 3 ราย
สลด "ผู้ว่าสมุทรสาคร" สอบเหตุคานก่อสร้างทางยกระดับ พระราม 2 พังถล่ม เสียชีวิต เพิ่มอีก 1 คนงานเล่านาทีระทึก
"ชาวบ้านนาทวี" สงขลา เดือดร้อนหนัก น้ำทะลักซัดบ้านพัง วอนจนท.เร่งช่วยเหลือ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น