เมื่อวันที่ 1 ก.ค. พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการนำเครื่องบินขับไล่ F- 16 ของกองทัพอากาศขึ้นบินขู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมาว่ามีความล่าช้านั้นว่า ยืนยันว่าผู้ปฏิบัติของกองทัพอากาศ ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีการปฏิบัติที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น และได้รับการแจ้งเตือนจากระบบเรดาร์ภาคพื้น มายังที่ศูนย์ยุทธการทางอากาศ นักบินก็พร้อมวิ่งขึ้นภายใน 5 นาที ระยะทาง 100 กว่าไมล์ ประมาณ 10 กว่านาทีก็จะถึงเป้าหมาย แต่การไปด้วยเครื่องรบทางอากาศ นักบินก็ต้องระมัดระวัง แต่เครื่องที่เข้ามาเมื่อวาน เขาเข้ามาแป๊ปเดียวแล้วก็ออกไป ในลักษณะการใช้อาวุธ และโอเวอร์ชูต เข้ามาในพื้นที่ ที่เป็นภูมิประเทศที่เป็นเขาและมีต้นไม้ ซึ่งเขาไม่เห็นหรอก ตนก็เห็นใจนักบินที่อยู่ข้างบน
โฆษกทอ. ยันทัพฟ้าไม่ช้าส่งเครื่องบิน F16 บินคุมชายแดนไทย-เมียนมา แจงบินขึ้นใน 5 นาที หลังเรดาร์เตือน พร้อมแจ้งผู้นำกองทัพอากาศเมียนมาแล้ว ต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก แจงเหตุการณ์ไม่มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคาม คาดเป็นการใช้อาวุธในประเทศเขา แต่บินโอเวอร์ซูตมาในบ้านเรา เขาคงดูไม่รู้ว่าตรงไหนเป็นชายแดน
ข่าวที่น่าสนใจ
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามาบินอยู่แนวชายแดนในพื้นที่ของเขา ไม่ได้มีกระทบ ไม่ได้มีแนวโน้ม เป็นภัยคุกคามกับเรา ซึ่งก็ต้องเฝ้าดู โดยเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่า เป็นลักษณะของการใช้อาวุธ และยกตัวขึ้น แล้วก็บินโอเวอร์ซูตมาในบ้านเรา ซึ่งภูมิประเทศเป็นป่า เป็นเขา ดูไม่รู้หรอกว่าตรงไหน เป็นชายแดน” พลอากาศตรี ประภาส กล่าว
เมื่อถามว่า จากการประเมินทราบวัตถุประสงค์หรือทราบฝ่ายหรือยัง พลอากาศตรี ประภาส กล่าวว่า ต้องเข้าใจก่อนว่า ประเทศไทย กับประเทศเพื่อนบ้านความสัมพันธ์ดีมาก เราพูดคุยกันทุกระดับอยู่แล้ว ซึ่งเจตนาจริงๆ เขาไม่ได้ต้องการมารุกล้ำบ้านเรา ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมช้า ขอย้ำว่า ถ้าเครื่องบินนั้นมีทิศทางความเร็วสูง เป็นเครื่องบินแบบไฟต์เตอร์ ไม่มีแผนการบิน รับรองได้ว่าเราสกัดกั้นที่ชายแดนทันที แต่ตรงนี้ไม่ใช่ คนละสถานการณ์กัน ต้องแยกแยะ ไม่ใช่วิเคราะห์รวมกันไปหมด ดังนั้นการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆขอให้ดูข้อเท็จจริงด้วย และดูผู้ปฏิบัติที่เขามีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ที่เขาดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะนักบิน และผู้ที่ควบคุมทางอากาศ พร้อมยืนยันว่า ผู้บัญชาการทหารอากาศไม่ได้นิ่งนอนใจ และสั่งการชัดเจนว่าการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และได้แจ้งเตือนไปยังผู้นำของกองทัพอากาศเมียนมา ผ่านผู้ช่วยทูตทหารอากาศว่าต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ เราพร้อมปกป้องประเทศชาติเต็มที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-