เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ทั้งนี้ในวาระการพิจารณากระทู้ถามพล.อ.สกนธ์ สัจจาานิตย์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และนายสุรเดช จิรฐิติเจริญ ส.ว. ตั้งกระทู้เพื่อสอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาพลังงานและสถานการณ์พลังงานในประเทศเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และแนวทางบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
“สุพัฒนพงษ์” ตอบกระทู้วิกฤตพลังงานส่อยืดเยื้อ กระทบผู้ประกอบการ-แรงงาน จ่อหารือ “ธปท.-คลัง” ลดผลกระทบ พร้อมขอวุฒิสภา ประหยัดพลังงาน - ลดอุณหภูมิแอร์ เป็นตัวอย่างกับประชาชน
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวชี้แจงทั้ง 2 กระทู้ว่า จากวิกฤตที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งรัฐบาลหาทางแก้ปัญหา สำหรับข้อเสนอเกี่ยวกับการลดค่ากลั่น ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรีคลังท่านหนึ่งเสนอเกี่ยวการเจรจาลดค่ากลั่น ในข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประกอบการมีกำไรในส่วนดังกล่าวมา 2-3 เดือนไม่ใช่มีกำไรมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ดีปัจจุบันผู้ประกอบการมีกำไรจากค่ากลั่นเพียง 1-2 บาทเท่านั้น หากจะเจรจาเพื่อลดค่ากลั่นต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย หากโรงกลั่นยุติการกลั่น รัฐบาลจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมัน ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันมีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าหากวิกฤตพลังงานมีสูงขึ้น การเจรจาเพื่อขอโรงกลั่นในการลดกำไรน้อยลงอาจทำได้ในอนาคต
นายสุพัฒนพงษ์ ได้ตอบกระทู้ในส่วนการบริหารกองทุนน้ำมัน ในสถานการณ์วิกฤตพลังงานที่ยืดเยื้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ พนักงาน แรงงาน เป็นประเด็นอ่อนไหว ที่ต้องหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงการประคับประคองและสร้างสมดุลกับภาวะค่าเงิน และอัตราเงินเฟ้อด้วย
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนมาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาพลังงานด้วยว่าจะใช้แนวทางในการประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยประหยัดไฟฟ้า ด้วยวิธีปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอาหาร ทั้งนี้หากวุฒิสภาทำได้ ปรับอุณหภูมิไม่ต้องใส่สูท ผูกไทด์ และมีอุปกรณ์วัดพลังงาน เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเริ่มทำแล้ว ผ่านการถ่ายทอดสด จะทำให้เกิดการปฏิบัติจริงจังมากขึ้น
“กระทรวงพลังงานพร้อมสนับสนุน เพื่อช่วยรัฐสภาทำเรื่องนี้ จะให้ข้อมูลและส่งเจ้าหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์วัดหรือแสดงตัวเลขต่างๆ ให้เห็นเชิงประจักษ์ว่ากรลดใช้พลังงานได้ผล ด้วยวิธีง่ายานิดเดียว หากเราทำได้และสื่อสารประชานผ่านการถ่ายทอดสดขอองสภา เป็นเครื่องมือที่ดีส่งผลประหยัด รณรงค์ใช้พลังงาน เป็นประโยชน์ส่งเสริมให้ประชาชนดำเนินการตาม” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-