วันที่ 4 ก.ค. 2565 ก่อนการประชุมร่วมระหว่าง นายชัยวุฒิ ธนาคามานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกเรื่องสายสื่อสารรกรุงรัง พบว่า นายชัชชาติ และ นายชัยวุฒิ ได้ปิดห้องประชุมคุยกันประมาณ 10 นาที ท่ามกลางกระแสดราม่า เรื่องของนายชัยวุฒิ ที่พูดถึงนายชัชชาติว่า PR เก่งกว่ารัฐบาล
หลังหารือเสร็จ นายชัชชาติ และ นายชัยวุฒิ ได้เดินมาพร้อมกัน สื่อมวลชนจึงถามถึงประเด็นดังกล่าว ว่าเคลียร์ใจกันหรือยัง โดยนายชัชชาติกล่าวว่า “รักกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเลย ตนอ่านข่าวแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรและต้องขอขอบคุณรัฐมนตรี ที่เชิญมาหารือกันในวันนี้ด้วย”
ขณะที่ นายชัยวุฒิ จะกล่าวว่า นายชัชชาติเป็นรุ่นพี่วิศวะจุฬา รู้จักกันมานานแล้ว นับถือกัน ก่อนต่างฝ่ายจะยกมือไหว้กัน ส่วนที่บอกว่า PR เก่ง ถือเป็นการชมรุ่นพี่ ที่ทำเรื่องประชาสัมพันธ์เก่ง เราก็จะต้องไปศึกษาทำตามแบบ เพราะท่านทำไว้ดีแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนคำพูดที่หลายคนนำไปตีความว่า เป็นการแขวะ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ตนพูดดี จิตใจผมดีนะ แต่สื่ออาจจะไม่เข้าใจ”
สำหรับผลการหารือนายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องการจัดระเบียบสายเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ก.ดิจิทัลฯ ทำงานร่วมกับกสทช.โดยตั้งงบประมาณไว้ 700 ล้านบาท เพื่อจัดระเบียบสายให้เสร็จภายในปีนี้เก็บสายเก่าทิ้ง เดินสายใหม่เรียบร้อยขึ้น โดยเป็นโครงการจัดระเบียบทั้งประเทศ ส่วนเรื่อง การเอาสายสื่อลงใต้ดินบางส่วนเป็นของกทม. บางส่วนเป็นของกสทช. บางช่วงมีสายจำนวนมาก ทำให้ทัศนียภาพไม่สวยงาม โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ทำแล้ว แต่ยังมีอีกหลายจุดที่ไม่ได้ทำ ทั้งนี้ก็จะต้องมีการทำงานร่วมกัน ทั้งโอเปอเรเตอร์ กสทช. และต้องประสานงานซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย ขอขอบคุณผู้ว่าฯ กทม. ท่านเป็นคนเก่งทำงานประทับใจกับประชาชน วันนี้ก็เป็นโอกาสทำงานร่วมกับให้ประชาชน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายถ้าได้ข้อสรุปจะแจ้งอีกครั้ง