ปักป้าย”หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” กลางสะดืออีสานเมืองมหาสารคาม 2 ตำบล

ปักป้าย"หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน"กลางสะดืออีสานเมืองมหาสารคาม 2 ตำบล พร้อมส่งเสริมอาชีพขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า

วันนี้ (4 กรกฎาคม 2565) ณ ศาลากลางบ้านแท่นนคร ต.เหล่า อ.โกสุมพิสัยจ.มหาสารคาม จุดศูนย์กลางของภาคอีสาน หรือหลายคนเรียกว่า “กลางสะดือภาคอีสาน” นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมกับทาง นางนิตยา นาโล ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน ร่วมกับ นายกฤษ สืบเมืองซ้าย นายก อบต.เขวาไร่ นายจอมสิงห์จันดา รองนายก อบต.เหล่า นายกะมล ศรีบัวทอง กำนันตำบลเหล่า และประชาชนร่วมเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน 2 ตำบล 32 หมู่บ้าน และขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา”

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทาง หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ได้ดำเนินงานตามแนวทางของ “แรมโบ้อีสาน” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ดำเนินการเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันในพื้นที่ต่างๆและส่งเสริมอาชีพเกษตรกรในด้านต่างๆ พร้อมต้องการให้เกษตรกรได้ออกมาร่วมกันขับเคลื่อนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” และต้องการส่งเสริมความรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนส่งเสริมและพัฒนา ทางกลุ่มได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาขยายผลในกระบวนการทำงาน เป็น 3 ระดับ คือ ระดับ “พออยู่” เป็นต้นแบบในการใช้ชีวิตพึ่งตนเอง เน้นการปฏิบัติทำกิน ทำใช้ในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และมีการออม ระดับ “อยู่ดี กินดี” เป็นต้นแบบในการบริหารจัดการพัฒนาในรูปกลุ่ม การพัฒนารายได้ด้วยระบบกลุ่ม เพื่อเพิ่มรายได้และขยายโอกาสคนในชุมชน และ ระดับ “มั่งมี ศรีสุข” เป็นต้นแบบการบริหารการพัฒนาในรูปแบบองค์กรเครือข่าย เพื่อใช้ศักยภาพในการดำเนินการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เพื่อขยายโอกาสในการประกอบอาชีพและส่งเสริมการจัดสวัสดิการให้กับคนในหมู่บ้านชุมชน

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ถ้าท่านให้ปลาใครหนึ่งตัว เขามีกินแค่หนึ่งวัน แต่ถ้าสอนเขาจับปลา เขาจะมีกินตลอดชีวิต ความยากจนเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อน เราไม่ควรคาดหวังว่าจะมีนโยบายวิเศษที่จะขจัดความยากจนให้หมดไป แต่เราควรใช้ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์เพื่อประกอบการตัดสินใจออกแบบนโยบายขจัดความจนที่มีประสิทธิผลและปราศจากอคติ ซึ่งอาจเป็นการผสมผสานระหว่างการให้เปล่าและการฝึกทักษะอาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจของคนยากจนในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "เชน ธนา-ภรรยา" ถูกกล่าวหาฉ้อโกง 29 พ.ย.นี้
“ลุงป้อม” ปัดตอบปม “สิระ” อ้างคนในป่าต่อสายช่วย “สามารถ”
"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง
ตร.นำกำลังทลายแคมป์ "แรงงานต่างด้าวเถื่อน" นับร้อย ย่านหนองใหญ่-ชลบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ
‘โฆษก ทบ.’ แจง ‘เจ้ากรมยุทธฯ’ ทำร้ายทหาร เหลือสอบพยาน 2-3 ราย ทำได้แค่ตักเตือน ส่วนคดีอาญา เจ้าทุกข์ต้องดำเนินการ
"อ.ปานเทพ"กางเอกสาร JC2544 อ้างไทย-กัมพูชา เคยรับรอง MOU 44 เป็นสนธิสัญญา
"ดร.ศิลปฯ" อดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนทวีธาภิเศก ปี 67 ปักธงสนับสนุนด้านกีฬากับเยาวชน
"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต
ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น