พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และโฆษก บชน. แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหหลังกลุ่ม REDEM ได้มีการนัดหมายรวมตัวกันที่บริเวณสนามหลวง เพื่อทำกิจกรรมแสดงออกมางการเมือง ก่อนจะมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งสิ้น จำนวน 20 ราย เป็นผู้ใหญ่ 16 ราย และเยาวชน 4 ราย พร้อมแจ้ง 7 ข้อหาประกอบด้วย
1.ร่วมกันฝ่าฝืน ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้อง
2.ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ศ.2558 มาตรา 34 (6) และมาตรา 51
3.ร่วมกันมั่วสุมสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
4.เจ้าพนักงานสั่งให้ผู้มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่เลิก ผิดตามมาตรา 216
5.ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
6.ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ตามมาตรา 138 วรรคสอง ประกอบมาตรา 140 วรรคแรก
และ 7.ข้อหาตามมาตรา 112
โดยกล่าวอีกว่า ระหว่างที่มีการชุมนุม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามได้แจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมตลอดเวลา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับไม่สนใจแถมยังกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา และยังได้มีการรื้อตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่บริเวณท้องสนามหลวง ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งได้ใช้สิ่งของต่าง ๆไม่ว่าจะเป็น ท่อนเหล็ก ท่อนไม้ หนังสติติ๊กลูกแก้ว ลูกเหล็กระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่พยายามผลักดัน กลุ่มผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่สนามหลวง โดยผู้ชุมนุมกระจายตัวออกไในสองจุดคือ บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้าและบริเวณสี่แยกคอกวัว จากนั้นเวลา 21.40 น.ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจุดไฟเผาในบิรเวณพื้นที่ต่าง ๆ โดยรอบพื้นที่ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งบริเวณถนนราชดำเนิน บริเวณด้านหน้ากองสลาก บริเวณสนามหลวง ด้านหลังโรงแรมรัตนโกสินธุ์ บริเวณเชิงสะพานพระปิ่นเกล้าและพื้นที่อื่น ๆ
อย่างไรก็ตามการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ เรามีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 9 นาย และรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระอีก 2 นาย จากนี้จะควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคน