วันที่ 7 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการลงมติของสมาชิกรัฐสภาต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ…. ในมาตรา 23 ซึ่งแก้ไขเนื้อหาของมาตรา 128 ว่าด้วยวิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมติเสียงข้างมาก 392 เสียง เห็นด้วยกับผู้สงวนญัตติที่ให้แก้ไข ให้ใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อ ต่อ 160 เสียงที่ให้คงไว้ตามที่กมธ.เสนอให้ใช้จำนวน 100 คนหาค่าเฉลี่ย
สำหรับผลการลงมติเสียงข้างมากให้พลิกสูตรคำนวณดังกล่าวพบว่า ส่วนใหญ่มาจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ที่พบว่าลงคะแนนไม่แตกแถวทุกคน ยกเว้น 3 ส.ส. ที่ไม่ปรากฎการลงคะแนน คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล , นายเอกราช ช่างเหลา และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ , พรรคประชาธิปัตย์ 34 เสียง , 6 พรรคเล็กร่วมรัฐบาล ,พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง , พรรคชาติไทยพัฒนา 5 เสียง ,พรรคพลังท้องถิ่นไท 4 เสียง, พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 เสียง , พรรคเศรษฐกิจไทย 2 เสียง
นอกจากนั้นยังมีพรรคฝ่ายค้านร่วมสนับสนุน รวม 59 คน ได้แก่ พรรคก้าวไกล 47 เสียง , พรรคเสรีรวมไทย 5 เสียง และพรรคเพื่อไทย จำนวน 7 ได้แก่ นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ นายธีระไตรสรณกุล นายนิยม ช่างพินิจ นางผ่องศรี แซ่จึง นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร นายสุชาติ ภิญโญ ร่วมลงมติสนับนุนด้วย ขณะทีมีส.ว.ลงมติสนับสนุนอีก 164 เสียง
ขณะผลการลงมติเสียงข้างน้อย ซึ่งยืนยันต่อหลักการหาร 100 ที่มีจำนวน 160 คน พบว่า มาจาก พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 2 คน คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายกฤษณ์ แก้วอยู่ พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 11 คน ได้แก่ นายอันวาร์ สาและ, นายสุทัศน์ เงินหมื่น,นายสินิตย์ เลิศไกร, นายสาธิต ปิตุเตชะ, นายสมชาย ยประดิษฐพร, นางศรีสมร รรัสมีฤกษ์เศรษฐ์, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ และนายกนก วงษ์ตระหง่าน พรรคเศรษฐกิจไทย จำนวน 9 คน ได้แก่ นายเกษม ศุภรานนท์ ,น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ, นายจีรเดช ศรีวิราช, นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูล, นายสมศักดิ์ คุณเงิน,นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์, นายปัญญา จีนาคำ, นายพรชัย อินทร์สุข, พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์