"งูพิษ" หรือ ไม่มีพิษ แชร์ว่อนเน็ต ลักษณะต่าง ๆ บอกได้ จริงหรือ เตือนระวัง ไม่สามารถฟันธงกับงูในประเทศไทยได้ อันตรายถ้าจดจำไปใช้
ข่าวที่น่าสนใจ
อาจารย์เจษฎ์ โพสต์ เตือน ระวังนะครับ ลักษณะทรงหัวของงู และลักษณะอื่น ๆ ที่แชร์กันว่า ใช้บอกได้ว่าเป็นงูมีพิษ หรือไม่มีพิษ นั้น ไม่สามารถฟันธงกับงูในประเทศไทยเราได้ครับ อันตรายถ้าจดจำไปใช้ อย่างในรูปนี้ ซึ่งเอามาจากเพจประเภทแนะนำทริคต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และบอกว่า งูพิษจะมีหัวเป็นทรงสามเหลี่ยม นั้น ก็เป็นภาพที่เอามาจากงูในต่างประเทศครับ ซึ่งไม่ครอบคลุมกับงูในประเทศไทยเรา
บทความหนึ่งในเพจ หมอชาวบ้าน ได้เคยเตือนไว้เหมือนกันว่า ลักษณะของหัว จะใช้จำแนกว่างูชนิดใดมีพิษและไม่มีพิษไม่ค่อยได้ งูที่มีหัวรูปสามเหลี่ยม ก็ไม่ใช่ว่าจะมีพิษเสมอไป ในทำนองเดียวกัน งูที่หัวต่อกันเป็นท่อนเดียว มีพิษ ก็มีมาก
ที่ละเอียดกว่านี้ คือ รายการ ชัวร์ก่อนแชร์ ของสำนักข่าวไทย ก็เคยทำคลิปเตือนไว้แล้วครับ ว่า 7 ข้อสังเกตงูมีพิษ – งูไม่มีพิษ จริงหรือ? นั้น ไม่ถูกต้อง ไม่ควรแชร์ต่อ มีรายละเอียด ดังนี้
- มีการแชร์ข้อความกันในโลกโซเชียล วิธีดูว่างูตัวไหน มีพิษ หรือไม่มีพิษ 7 ข้อ เช่น งูมีพิษ มีหัวเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ดวงตาเป็นรอยบากแนวตั้ง ใต้ปลายหางมีเกล็ดเรียง 1 แถว และเฉพาะงูไม่มีพิษเท่านั้นที่ว่ายน้ำ ?
- ทางรายการได้ไปสอบถามกับ คุณธนพงษ์ ตวัน นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย .. ได้รับคำอธิบายว่า ข้อมูลที่แชร์กันมักจะแปลมาจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่มักจะใช้ไม่ได้ผลกับงูในประเทศไทยเรา ดังนี้
“งูพิษ” ส่วนใหญ่มีหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม
- อาจจะใช้ได้กับ กลุ่มงูที่มีพิษต่อระบบเลือด (เช่น งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ งูแมวเซา) ซึ่งส่วนใหญ่มีหัวเป็นทรงสามเหลี่ยม มีขนาดหัวใหญ่กว่าลำตัว ลำตัวก็จะอ้วนป้อม
- แต่ในประเทศไทย มีกลุ่มงูที่มีพิษต่อระบบประสาทด้วย (เช่น งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม) ซึ่งหัวก็ไม่ได้เป็นทรงสามเหลี่ยม
ให้สังเกตสี งูมีพิษ บางชนิด เช่น งูปะการัง จะมีสีสดใส
- สีตัว ไม่สามารถบอกได้ว่างูมีพิษ หรือไม่มีพิษ
- ข้อมูลนี้แปลจากต่างประเทศ คือพูดถึง งู coral snake ที่มีพิษ แต่สีของมันก็เหมือนกับงูไม่มีพิษ ที่ชื่อว่า milk snake ที่คนนิยมเอาเลี้ยง
มองเข้าไปในดวงตางู งูมีพิษจะมีรอยบากตามแนวตั้งในดวงตา
- ตัวรูม่านตา นั้นบอกไม่ได้ว่าเป็นงูมีพิษ หรืองูไม่มีพิษ
- งูมีพิษ ที่มีรูม่านตา ในแนวตั้ง ก็อย่างเช่น งูเขียวหางไหม้
- แต่ก็มี “งูพิษ” ที่มีรูม่านตา เป็นรูม่านตากลม อย่างเช่น งูเห่า งูสามเหลี่ยม
ดูการสั่นของหาง ถ้างูสั่นหาง มีพิษแน่นอน
- งูมีพิษอย่าง งูหางกระดิ่ง ที่ทำพฤติกรรมสั่นหางได้ แต่ไม่ใช่ว่า “งูพิษ” อื่น ๆ จะทำแบบนั้น
- งูมีพิษบางชนิดในประเทศไทย เช่น งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ พบพฤติกรรมการตีหาง (ไม่ใช่การสั่นหาง) โดยเวลาที่มันถูกรบกวน จะใช้หางตีกับพื้นผิวที่ยึดเกาะอยู่ เป็นสัญญาณป้องกันตัวเอง
- ส่วนงูเห่า งูสามเหลี่ยม จะไม่มีพฤติกรรมการตีหาง แบบนั้น
ดูเกล็ดใต้ปลายหาง งูมีพิษจะมีเกล็ด 1 แถว ส่วนงูไม่มีพิษจะมี 2 แถว
- ไม่จริงเลย อย่าง งูเห่า จะมีทั้งตัวที่มีเกล็ดเดี่ยว และตัวที่มีเกล็ดคู่
เฉพาะงูไม่มีพิษเท่านั้นที่ว่ายน้ำ
- งูทุกชนิดว่ายน้ำได้ ทั้งงูมีพิษและงูไม่มีพิษ
กรณีที่ถูกงูกัด ให้ดูรอยกัด ถ้างูมีพิษ จะมี 2 จุดใกล้กัน
- พอใช้เป็นข้อสังเกตได้
- งูมีพิษจะมีเขี้ยวพิษ เมื่อถูกกัด บาดแผลก็จะมีรอยเขี้ยว อาจจะมีจุด 2 จุดจากทั้ง 2 เขี้ยว หรือถ้ามี 1 จุดก็อาจจะถูกแค่เขี้ยวเดียว
- ส่วนงูไม่มีพิษ ไม่มีเขี้ยวพิษ ก็จะเห็นเป็นรอยฟัน
สรุปว่า วิธีดูว่างูตัวไหนมีพิษ หรือไม่มีพิษนั้น : ควรจดจำเป็นตัว ๆ เป็นชนิด ๆ ไปเลยดีกว่า เพราะงูมีพิษหลัก ๆ ในประเทศไทยเรานั้นมีไม่กี่ชนิด ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ และ งูแมวเซา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง