ดังนั้นศาลจึงมีคำพิพากษาว่าการที่คณะกรรมการมาตรา 36 รฟม. มีมติยกเลิกประกาศเชิญชวนรอบแรกและการออกประกาศเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้มีการชะลอ การเดินหน้าประกวดราคารอบใหม่ ศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งให้ชะลอ รวมทั้งได้มีการหยิบยกประเด็นที่มีการยกเลิกในรอบแรก บริษัทที่ร่วมลงทุนกับบีทีเอสเป็นกิจการร่วมค้า ได้รับคืนเงินค่าซอง ไปแล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ากระบวนการประกวดราคาครั้งใหม่นี้จะยังมีความสมบูรณ์เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่
ทางด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BTSC เปิดเผย ภายหลังศาลปกครองกลางการอ่านคำพิพากษาว่า ทางศางปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ที่ให้ยกเลิกการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และเพิกถอนคำสั่งของผู้ว่าการ รฟม. ที่ให้ยกเลิกการประมูล ชี้ให้เห็นว่าการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในการประมูลครั้งแรกนั้นยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ เพราะคำสั่งยกเลิกประมูลไม่เป็นผล ซึ่งโดยปกติแล้วโครงการเดียวก็ต้องมีการประมูลในครั้งเดียว และใช้หลักเกณฑ์เดียว
ส่วนกำหนดการประมูลรอบใหม่ที่ รฟม.จะเปิดรับซองเอกสารจากเอกชนในวันที่ 27 ก.ค. และ เปิดซองข้อเสนอ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2565 จะดำเนินการอย่างไร คงต้องรอดูการพิจารณาจาก รฟม.อีกครั้ง เพราะถือว่าปัจจุบันการประมูลครั้งแรกยังไม่แล้วเสร็จ แม้ว่าจะมีการคืนซองข้อเสนอของเอกชนไปบ้างแล้ว แต่ศาลปกครองชี้ว่าการประมูลรอบใหม่สามารถยกเลิกได้
นายสุรพงษ์ ระบุด้วยว่า การที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา ว่าการแก้ไขหลักเกณฑ์การคัดเลือกครั้งที่แล้ว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันนี้ต้องฝากไปพิจารณากันจะทำอย่างไร ในส่วนของบริษัทเองก็คงต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางฝั่งกฎหมาย ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
“วันนี้ก็พึงพอใจ ศาลให้ความยุติธรรมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ชอบ ก็คือการยกเลิกการประมูลสายสีส้ม ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ (2464) ศาลก็มีคำสั่งเพิกถอน”
ส่วนข้อคำถามว่า วันนี้ถือเป็นการสิ้นสุดแล้วใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการอันนี้ ไม่แน่ใจว่า รฟม.อาจจะอุทธรณ์ได้หรือไม่
ประเด็นสำคัญ นายสุรพงษ์ ระบุว่า การตัดสินในวันนี้ ถือเป็นบรรทัดฐานของการประมูลของประเทศ บริษัทยังไม่รู้ว่าจะชนะหรือแพ้ แต่อยากให้เกิดการประมูลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นธรรม อันนี้จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งศาลก็ได้เน้นหลายครั้งว่า ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวกับชื่อเสียงของประเทศ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในการประมูลโครงการขนาดใหญ่
“ เป็นบรรทัดฐานของการประมูลบ้านเรา ไม่ใช่ว่าการต่อสู้เราจะชนะ เรายังไม่รู้ว่า ว่าจะชนะหรือแพ้ แต่เราอยากให้เกิดการประมูลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นธรรม อันนี้มันจะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เมื่อกี้ ศาลก็เน้นหลายทีแล้ว ว่าอันนี้มันต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันจะเกี่ยวกับชื่อเสียงของประเทศด้วย และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ถ้าการประมูลโครงการขนาดใหญ่มีความโปร่งใส มีความเป็นธรรม คนก็กล้าที่จะมาลงทุน “ นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนการประกวดราคารอบใหม่ ปัจจุบัน BTSC ได้เข้าร่วมซื้อซองเอกสาร แต่ยอมรับว่าหลักเกณฑ์คัดเลือกด้านคุณสมบัติในการประมูลรอบใหม่นั้น แตกต่างจากเกณฑ์รอบแรกอย่างมาก และจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในวันนี้ ที่ชี้ว่าการยกเลิกประมูลเป็นผลจากการเปลี่ยนหลักเกณฑ์คัดเลือกในครั้งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็อาจจะต้องรอดูว่า รฟม.จะดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการนี้อย่างไร และใช้หลักเกณฑ์ใด
“ เราพูดถึงประกาศประมูล คือเพิกถอนคำสั่งยกเลิก แสดงว่าครั้งที่แล้วยังอยู่ บวกกับศาลมีคำพิพากษาว่า การเปลี่ยนเกณฑ์ไม่ชอบ เพราะฉะนั้น ถ้าถามผม คืออันแรกสุดเลยอันนั้น คืออันที่ถูกต้อง คงต้องไปดูคำพิพากษาโดยละเอียด “ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BTSC กล่าว
และหลังจากนี้ ต้องดูว่า ทางฝั่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม. ) จะทำอย่างไรต่อเกี่ยวกับการประมูลครั้งใหม่ ที่กำลังจะเปิดให้เอกชนยื่นซอง ในวันที่ 27 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งบริษัทได้มีคำถามไปยังรฟม. แล้ว ต้องรอคำตอบในวันพรุ่งนี้
เดี๋ยวก็คงต้องไปดูว่าทางฝั่งรฟม. เรื่องการประมูลที่กำลังจะมีการยื่นซอง วันที่ 27 กรกฎาคม เราก็มีคำถามเข้าไปเยอะก็รอพรุ่งนี้ ว่าทางรฟม.จะตอบคำถาม เพราะในนั้นมันมีอะไรที่เราคิดว่าอาจจะมีอะไรที่ไม่ชัดเจนหลายอย่าง เยอะมากก็จะรอฟังคำตอบพรุ่งนี้ รวมถึงคำพิพากษาวันนี้ก็คงมีผลด้วย ผมคิดว่าทางฝั่งรฟม. ต้องไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อเช่นเดียวกัน “ นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนคดีเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ยังค้างอยู่ในศาล ก็มีคดีที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ เข้าใจว่าศาลนัดวันที่ 27 กันยายน เพื่อพิจารณาว่ามีมูลหรือเปล่า โดยกระบวนการไต่สวนพยานเสร็จสิ้นไปแล้ว
ล่าสุดทางด้าน นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. ยืนยันว่า รฟม. จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลปกครองภายใน 30 วัน แน่นอน หรือถ้ามีประเด็นกฎหมายเพิ่มเติม ก็สามารถขยายและเวลาในการอุทธรณ์ตามกฎหมายได้
ส่วนการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รอบใหม่ นายภคพงศ์ ยืนยันว่ากระบวนการจะเดินหน้าต่อไป เพราะที่ผ่านมา คดีนี้มีการฟ้องมาแล้ว 2 ครั้ง ในศาลปกครอง ซึ่ง ในครั้งแรกศาลปกครองได้มีคำสั่งยกในประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้ชะลอการประกวดราคารอบใหม่ รวมทั้งศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษายืนไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะมีการชะลอการประกวดราคาครั้งใหม่ ที่ได้เริ่มต้นกระบวนการไปแล้ว