วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
1. หญิง 84 ปีเดิมแข็งแรงดี
2. หญิง 39 ปีเดิมแข็งแรงดี
3. ชาย 44 ปีอ้วนมากและเพิ่งรู้ว่าเป็นเบาหวาน
ทั้งสามคนอยู่ในพื้นที่ท่าพระ-ภาษีเจริญ โดยติดเชื้อกันส่วนใหญ่หรือทั้งครอบครัว พวกเขามารพ.ศิริราชด้วยอาการของปอดอักเสบโควิดรุนแรง รายแรกต้องใส่ท่อช่วยหายใจขณะนำส่ง รายที่สองใส่ทันทีเมื่อถึงรพ. ส่วนรายที่สามใช้ไฮโฟลว์ได้พักหนึ่งแล้วไม่ไหวต้องใส่ท่อ ทั้งสามคนต้องรอเตียงย้ายเข้าไอซียูโควิดกันไม่น้อยกว่า 12 ชม. โชคดีว่าทีมเราเอาท่อช่วยหายใจผู้ป่วยออกได้สี่คนในช่วงสองวันนี้และย้ายออกไปได้สามคน จึงทยอยรับทั้งหมดเข้ามาไอซียูโควิดที่ทีมเราดูแลได้ แต่หากมีรายแบบนี้มาอีกคงหาจังหวะเหมาะเจาะเช่นนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ลองดูเอกซเรย์ปอดกันหน่อย พบมีฝ้าขาวเวอร์กระจายทั่วปอดในทุกคน จนเจ้า AI ที่ช่วยงานเรายังให้สีแดงแจ๋บ่งถึงรุนแรงน่ากลัวมาก นอกจากนี้ทุกคนยังมีลักษณะทางคลินิกเหมือนผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง กล่าวคือ ความดันโลหิตต่ำ แลคเตตในเลือดสูง เม็ดเลือดขาวในเลือดสูง โปรแคลซิโตนินในเลือดสูง และดีไดเมอร์ในเลือดสูงลิบลิ่ว กำลังรอผลตรวจสายพันธุ์ซึ่งน่าจะเป็นเดลตาทั้งหมด
อุทาหรณ์นี้ไม่ใช่การขู่ให้กลัว แต่มันช่วยยืนยันว่าเจ้าวายร้ายตัวนี้มาเคาะประตูบ้านเราทุกคนกันถ้วนหน้าแล้ว รอแต่ว่าใครจะเป็นผู้โชคร้ายเช่นพวกเขาทั้งสามราย โดยมันนอกจากทำให้ปอดอักเสบเร็วแล้ว ยังอาจทำให้ปอดอักเสบรุนแรงจนคุกคามชีวิตเช่นเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้ โปรดอย่านิ่งดูดายล็อคดาวน์ตัวเองและครอบครัวให้สนิท ในยามนี้จะไปหวังพึ่งภาครัฐที่ตัดสินใจเชื่องช้าคงไม่ไหวแล้ว โรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่างศิริราชหรือที่อื่นๆ ก็อาจช่วยเราไม่ได้มากเพราะล้นเกินศักยภาพจนผู้ป่วยโควิดอาการหนักตกค้างอยู่ทุกหย่อมหญ้า
#ล็อคดาวน์จริงจังเถอะครับ