วันที่ 8 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต ว่าพี่น้องประชาชนที่เคารพรัก วันนี้ ผมอยากพูดกับทุกท่าน เกี่ยวกับอนาคตของบ้านเราและการเดินหน้าต่อไปของ ประเทศไทย ตอนนี้ ประเทศไทย กำลังกลับเข้าสู่ภาวะการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติแล้ว ข้างหน้าของเรายังมีอีกหนึ่งภัยร้าย ที่ใหญ่ยิ่งกว่า รอเราอยู่ นั่นคือ เราจะอยู่รอด อย่างไร จากการโหมกระหน่ำของพายุการขึ้นราคาทุกอย่างซึ่งสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นส่วนสำคัญยิ่งที่กระตุ้นให้ข้าวของแพง ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมัน อาหาร ค่าขนส่งจนถึงขั้น ทำให้บางประเทศในภูมิภาค เข้าใกล้การล่มสลายทางเศรษฐกิจ วันนี้ผมขอใช้เวลาซักนิด เล่าเรื่องสำคัญ คือ กลยุทธ์ภาพใหญ่ของผม ที่จะมาแก้ปัญหาปากท้อง และความยากจน ให้หมดไปเสียที ที่ผ่านมา หลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงระยะสั้น ๆ ได้ดำเนินนโยบาย ระยะสั้น แก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้า หรือมีโครงการลดแลกแจกแถมต่าง ๆ ซึ่ง แน่นอนว่า บางโครงการเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกฤต เพื่อช่วย บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่โครงการแบบนั้น ไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหา ความยากจนได้อย่างยั่งยืน และแน่นอนว่าวิธีการเหล่านั้น ไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้
เพราะฉะนั้น ผมจึงตั้งใจเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น ที่จะทำเรื่องใหญ่ๆ ให้ เกิดขึ้น ให้ได้เพื่อช่วยทุกคน ให้สามารถสร้างรายได้ ได้มากขึ้น อย่างยั่งยืน ผมขอให้ทุกท่านเดินหน้าไปกับผม ในช่วงเวลาที่ภารกิจระยะยาวเพื่อทุกคน ที่ผมได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ใกล้จะเสร็จสมบูรณแล้ว ผมกำลังขับเคลื่อน กลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลัก ที่จี่มายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จ และกำลังจะพร้อมที่จะ ช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้
แกนที่1: คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่ใหญ่ที่สุด และบูรณาการมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือ ท่าเรือ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคน โครงการที่ต้องใช้ เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นสิบๆ ปีที่ผ่านมา รัฐมักจะวางแผนโครงการที่สวยหรูมากมาย ทั้งการสร้างทาง รถไฟ ถนน สนามบิน และท่าเรือ แต่สุดท้าย แผนโครงการที่สวยหรูเหล่านั้นก็ถูกเก็บ ขึ้นหิ้ง จนฝุ่นเกาะ และไม่เคยถูกทำให้เกิดขึ้นจริง – กลายเป็นว่า ประชาชนหลายสิบ ล้านคน ยังคงต้องใช้ชีวิตกันต่อไป โดยไม่ได้รับประโยชน์จากการมีโครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคมขนส่งที่ดีกว่า และถูกกว่า ที่ในที่สุดแล้วจะช่วยเปิดโอกาสให้ ประชาชน สร้างรายได้ได้มากขึ้นด้วย ความมุ่งมั่นหลักของผม คือ ทำอย่างไรให้โครงการนับร้อย ๆ เหล่านั้น เกิดขึ้นจริงให้ได้และเป็นไปอย่างบูรณาการ เพราะผมรู้ว่า เมื่อโครงการทางรถไฟ โครงการรถไฟความเร็วสูง ถนน ท่าเรือ และ สนามบินต่างๆ เกิดขึ้นจริง โครงการเหล่านั้นจะเชื่อมต่อกัน เหมือนต่อจิ๊กซอว์ภาพใหญ่ได้สำเร็จ และนั่นคือเวลาที่เราจะคาดหวังถึงความเจริญรุ่งเรืองอย่างก้าวกระโดดของประเทศเราได้ –และเมื่อโครงการต่าง ๆ เหล่านั้นเชื่อมต่อกัน จะเป็น เหมือนสะพานเชื่อม เป็นเครื่องมือให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับ ตัวเองและประเทศได้ โครงการสำคัญต่าง ๆ ของเรา ในทุกมุมของประเทศ มีความคืบหน้าไปมาก พอสมควร และเริ่มใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
แกนที่2: ของกลยุทธ์ภาพใหญ่ของผม เพื่อที่จะสร้างความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับคน ไทย คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และ อุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงต่าง ๆ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยงเชื่อมต่อไป ถึงธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดเล็กอีกมากมาย ตลอดจนดึงเงินมหาศาลให้ไหล เข้าประเทศไทย ผ่านการส่งออกต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งรุ่งเรืองของไทย ที่ สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่วันนี้ อุตสาหกรรมนี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงครั้งใหญ่ เพราะการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเกิดขึ้นทั่ว โลก เป็นเวลาที่ผู้ผลิตยานยนต์อาจจะต้องเลือกที่จะสร้างโรงงานผลิตรูปแบบใหม่ ในประเทศต่าง ๆ ดังนั้น เราต้องเดินหน้าให้เร็ว และเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ที่ กำลังพยายามจะใช้โอกาสนี้ดึงเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ออกไปจากประเทศไทย ให้ไปอยู่ในประเทศของเขา เพราะฉะนั้นผมได้ขับเคลื่อน และพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในการผลิตยานยนต์ ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญของโลก เราต้องล็อกผู้ผลิตยานยนต์ ทั่วโลก ให้อยู่ในประเทศไทย และเราต้องช่วยให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้นสำหรับเค้า ในการที่เค้าจะลงทุนเพิ่ม และขยายธุรกิจของเค้าในประเทศไทย ถ้าเราทำสำเร็จ เส้นทางนี้ จะเป็นรากฐานที่สำคัญที่เกื้อหนุนหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรมต่าง ๆ และประเทศไทยให้ มั่งคั่งต่อไปได้อีกเป็น 20-30 ปีข้างหน้า วันนี้ เราเดินมาได้ไกลแล้ว ด้วยการทำงาน อย่างรวดเร็วและบูรณาการหลายหน่วยงาน จนผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกหลายราย แสดงเจตนารมณ์ว่าจะเดินหน้าตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ก็ยัง มีอีกหลายอย่างที่เราจะต้องทำ ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปกับผู้ผลิต ยานยนต์ต่าง ๆ เหล่านั้น และอีกส่วนหนึ่งของภารกิจในแกนหลักที่ 2 ของผม คือเราจะต้องทำให้ราคารถยนต์ ไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีราคาที่ถูกลง สำหรับคนไทยทุกคน ผมจะให้รายละเอียดเพิ่มเติม และความคืบหน้า เกี่ยวกับกลยุทธ์แกนที่ 2 นี้ ประมาณช่วงเดือนหน้าครับ
แกนที่3: ของกลยุทธ์ภาพใหญ่ของผมในการสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงให้กับประเทศ เพื่อที่จะช่วยทุกคนให้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้อย่างยั่งยืน คือ เรื่อง เกี่ยวกับภาคการธนาคารของเราและวิธีการทำงานของธนาคาร ตอนนี้ ประเทศไทยเรามีประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนที่ไม่สามารถกู้เงินได้และบาง คนอาจจะไม่เคยมีบัญชีธนาคารเลยด้วยซ้ำ เราต้องกลับมาถามตัวเองว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ในเมื่อธนาคารและเงินกู้จาก ธนาคาร คือหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่ประชาชนสามารถใช้ในการสร้างอนาคต และความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้รวมทั้งช่วยให้เค้าสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่มีปัญหา ไปได้ โดยที่ธุรกิจไม่ล้ม หรือไม่ต้องหมดเนื้อหมดตัว ในขณะเดียวกัน ถ้าเราสามารถหาหนทาง ที่จะทำให้ประชาชน 30 ล้านคนเหล่านั้น เข้าถึงระบบธนาคาร สามารถขอเงินกู้ และใช้บริการต่างๆ จากธนาคารได้ เราก็จะ สามารถกระตุ้นความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับประเทศเราได้ด้วย มีคนเก่ง ๆ หลายล้านคนที่ทำมาหากินเอง หรือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง รวมไปถึง มอเตอร์ไซค์รับจ้างและส่งของ และคนที่ทำงานอิสระในโลกของเศรษฐกิจแบบดิจิทัล นอกจากนั้น เรายังมีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ฉลาด และมีหัวการค้า มากมายใน ประเทศไทย คนที่พร้อมที่จะสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ธุรกิจดี ๆ แห่งอนาคต นับพัน ๆ ธุรกิจ สร้างความร่ำรวยให้กับตัวพวกเค้าเอง และในขณะเดียวกัน ก็สร้างความรุ่งเรือง ให้กับประเทศด้วย
เราต้องส่งเสริมเค้า และทำให้เค้าสามารถเข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น ทำไมเจ้าของร้านค้าขายเล็กๆ ตามท้องถนน ถึงกู้เงินจากธนาคารง่าย ๆ บ้างไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ร้านของเขา ก็ขายดี มีลูกค้าประจำ เราต้องหาทางที่จะทำให้เงินทุนที่จำเป็น ไปถึงมือเจ้าของกิจการเล็ก ๆ และกลุ่มคนรุ่น ใหม่ ที่สมควรจะได้รับมัน ธนาคารต้องหาทางที่จะเดินหน้าให้มากไปกว่าวิธีการหรือระบบแบบเดิม ๆ ที่มักจะปล่อยเงินกู้ให้แค่คนรวย ธุรกิจใหญ่ ๆ หรือคนที่มีเอกสารทางธุรกิจที่พร้อมเท่านั้น
ถึงเวลาแล้วครับ ธนาคารจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นคนตัวเล็ก ๆ และทำมา ค้าขายเลี้ยงตัวเอง ให้มากยิ่งขึ้น คนกลุ่มนี้จะเป็นพลังที่สำคัญมากต่อความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเราควรต้องส่งเสริมครับ เพื่อระดมพลังสร้างสรรค์มาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ ความร่ำรวยของคนทำมาค้าขาย เล็กๆ เจ้าของร้านค้า หรือคนรุ่นใหม่ อยู่ที่สมองและสองมือของเค้า อยู่ใน หัวใจที่มุ่งมั่น ที่จะทำงานหนัก