นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันนานาประเทศ รวมทั้งประเทศไทยมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ซึ่งรัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีนโยบายเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ทั้งในภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงภาคบริการมีความต้องการจ้างแรงงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้กำลังแรงงานเข้มข้น ซึ่งบางส่วนจำเป็นต้องจ้างงานแรงงานข้ามชาติ ส่งผลให้เกิดการแสวงหาการมีงานทำ และการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ ทั้งในลักษณะที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนกิจการ โดยเบื้องต้นกระทรวงแรงงานได้รับทราบข้อมูลจากนายจ้าง/สถานประกอบการว่า ยังมีความต้องการแรงงานประมาณไม่น้อยกว่า 120,000 คน
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงแรงงานจำเป็นต้องมีมาตรการสนับสนุนนายจ้าง/สถานประกอบการ และภาคการผลิตให้สามารถจ้างแรงงานข้ามชาติ ที่มีสถานะไม่ถูกต้องซึ่งประสงค์จะทำงานสามารถอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานได้ เพื่อฟื้นฟูประเทศในมิติต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยให้แรงงานข้ามชาติสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ยังมีสถานะไม่ถูกต้องด้วยเงื่อนไข และปัจจัยต่าง ๆ แต่ประสงค์จะทำงานอย่างถูกต้อง ดำเนินการตามแนวทางที่กรมการจัดหางานกำหนด เพื่ออยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 66 และเมื่อได้รับอนุญาตทำงานและตรวจลงตราถึงวันที่ 13 ก.พ. 66 แล้ว หากประสงค์จะทำงานต่อไป สามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 68 โดยขออนุญาตให้อยู่และทำงาน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี ครั้งแรกไม่เกิน 13 ก.พ. 67 ครั้งที่ 2 ไม่เกิน 13 ก.พ. 68 ซึ่งแรงงานข้ามชาติ ที่มีสถานะไม่ถูกต้องดังกล่าวจะต้องทำงานอยู่กับนายจ้างก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ในส่วนแรงงานสัญชาติเวียดนามต้องมีหนังสือเดินทางที่มีอายุและมีรอยตราประทับทุกกรณี