เผยความทรงจำสุดพิเศษ “ชินโซ อาเบะ” อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต่อ “ในหลวง ร.9”

เหลือเพียงรอยอาลัย "ชินโซ อาเบะ" อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดคำถวายความอาลัย อย่างสุดซึ้ง ของอดีตผู้นำญี่ปุ่นผู้วายชนม์ ต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

กรณีการอสัญกรรมของ นายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหลายสมัย จากเหตุการณ์ลอบยิง ขณะกำลังขึ้นเวทีปราศรัย ที่ จ.นาระ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา สร้างความตกตะลึงให้แก่ทั่วโลก ซึ่งต่างแสดงความเสียใจและไว้อาลัย ต่อการจากไปของอดีตรัฐบุรุษชาวญี่ปุ่น รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งถึงกับยกย่องว่านาย อาเบะ เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ นายชินโซ อาเบะ ยังเคยสร้างความประทับใจให้แก่ ชาวไทย เมื่อครั้งที่ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 โดยขณะนั้น นายชินโซ อาเบะ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ส่งสานส์แสดงความเสียใจ และร่วมไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคต มีใจความสำคัญดังนี้

“… ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อได้ทราบการแถลงการณ์เกี่ยวกับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ข้าพเจ้าขอเป็นตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่น และประชาชนญี่ปุ่น ขอแสดงความเสียใจต่อพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลไทยและประชาชนคนไทยทุกท่าน ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ในปี 1946 ก็เป็นที่รักและศรัทธาของพสกนิกรไทยมาเป็นระยะเวลานาน 70 ปี ทรงเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชน เป็นผู้พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทย และเป็นผู้นำประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ปี 1963 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศญี่ปุ่น เป็นพระราชอาคันตุกะ และใน ปี 1991 พระจักรพรรดิและพระจักรพรรดินีของญี่ปุ่นทั้งสองพระองค์ หลังจากขึ้นครองราชย์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรก ความสัมพันธ์ระหว่างพระราชวงศ์จักรพรรดิญี่ปุ่น และพระราชวงศ์พระมหากษัตริย์ไทยที่มีมายาวนานนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันดีงามและสึกซึ้งระหว่างญี่ปุ่นและไทย

ข้าพเจ้า มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อครั้งที่ได้เยือนประเทศไทยเมื่อ ปี 2013 ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ทรงมีความกังวลพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โตโฮกุ คุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ของท่านที่ทรงเชื่อมมิตรภาพสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันของญี่ปุ่นและไทยนั้น จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของชาวญี่ปุ่นทุกคนตลอดไป ข้าพเจ้าขอแสดงความโศกเศร้าเสียใจ ไปพร้อมกับประชาชนไทยทุกคน ขอร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช …” และจากคำไว้อาลัยถวายแด่ “ในหลวง ร.9” จากนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คงเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า พระราชไมตรีระหว่างพระราชวงศ์ไทยกับพระราชวงศ์ญี่ปุ่น มีรากฐานความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นมาอย่างช้านาน จะเห็นได้จากบันทึกในเอกสาร การแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น มีประวัติอันยาวนานมากว่า 600 ปี สามารถกล่าว ได้ว่าความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น นั้นมีรากฐานที่สำคัญมากจาก พระราชไมตรีระหว่างพระราชวงศ์ไทยกับพระราชวงศ์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของประชาชนทั้งสองประเทศ การเสด็จฯไปเยี่ยมเยือนซึ่งกันและกันหลายครั้งระหว่างพระราชวงศ์ไทยกับพระราชวงศ์ญี่ปุ่นนั้น แสดงถึงสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นยาวนานของประเทศทั้งสอง ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2506 พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เสด็จฯเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ จากนั้นในปีต่อมา สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร เจ้าชายอากิฮิโต และเจ้าหญิงมิชิโกะ เสด็จเยือนประเทศไทย ในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต

 

จากนั้น ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2534 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรกหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์ นอกจากนี้ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 ทรงเสด็จฯเยือนประเทศไทยเพื่อทรงร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชย์สมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ 2532 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อทรงร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จจักรพรรดิฮิโรฮิโต และในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2533 เสด็จฯเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อทรงร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งประเทศญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 เจ้าชายนารุฮิโต มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่นเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำกราบทูลเชิญจากรัฐบาลไทย เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและประเทศไทย ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2546 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทูลเกล้าฯถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่เจ้าชายอากิชิโน ในวโรกาสนี้ เจ้าชายอากิชิโนและเจ้าหญิงคิโกะ พระชายา พร้อมด้วยเจ้าหญิงมาโกะและเจ้าหญิงกาโกะ พระธิดาเสด็จฯเยือนประเทศไทย โดยเป็นการเสด็จฯเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกของพระธิดาทั้งสองพระองค์ และในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 เจ้าชายอากิชิโน เสด็จฯเยือนประเทศไทย เพื่อทรงงานวิจัยและมีเรื่องราวสุดแสนประทับใจที่ “ชินโซ อาเบะ” อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เคยกล่าวถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของประเทศไทย และตราตรึงในหัวใจคนไทยมาจวบจนทุกวันนี้ ซึ่งข้อความดังกล่าวได้ถูกตีพิมพ์ไว้บนหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่เข้าใจว่าถูกตัดมาแปะไว้ข้างพนัง ในห้องทำงานของสื่อมวลชน ประจำเนียบรัฐบาลของไทย ซึ่งคล้ายเป็นรูปวาดหน้าเหมือน “ชินโซ” รวมถึงยังมีข้อความที่ “ชินโซ” กล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งระบุว่า “… พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูง และทรงเป็นสุภาพบุรุษ จะรำลึกจดจำพระองค์ ในฐานะกษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม …”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น