นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยกับ TOPNEWS ถึงขั้นตอนการเซ็นสัญญาโครงการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (EEC) ตามที่ปรากฎเป็นกระแสข่าวว่าจะเกิดขึ้นโดยเร็ว แม้ว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ได้รับรายงานผลการตรวจสอบเพิ่มเติมจากคณะกรรมการฯ ตามกำหนดขยายเวลาการสอบอีก 30 วันแล้ว แต่ต้องขอระยะเวลาตรวจสอบและพิจารณารายละเอียดทั้งหมด ก่อนพิจารณาว่าหลังจากนี้ต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
อธิบดีกรมธนารักษ์ ย้ำว่า เรื่องดังกล่าว ต้องรอรมว.คลัง สั่งการมาก่อน ว่า ผลตรวจสอบมีประเด็นอะไรเพิ่มเติม หรือไม่ โดยกรมธนารักษ์จะยึดความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบฯ และคำสั่งของรมว.คลัง เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ ถ้าตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย กรมธนารักษ์ ก็จะเร่งเดินหน้าลงนามในสัญญา กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในการที่จะถูกดำเนินการในทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง รวมถึงจะต้องมีการนัดหมายกับทางคู่สัญญาอีกครั้ง ซึ่งการลงนามได้จะเกิดขึ้นเมื่อใด ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมในส่วนอื่นด้วย แต่ขณะนี้กรมธนารักษ์ เตรียมการไว้หมดแล้ว
“จะใช้เวลาถึง หรือไม่ถึง (1-2 เดือน) ขึ้นอยู่กับท่านรัฐมนตรี(คลัง) จะสั่งการอย่างไร หลังจากนั้น ก็เข้าสู่ Process ตามกระบวนการ ในส่วนของการที่จะนัดหมาย ว่าต้องแจ้งกี่วัน ตามขั้นตอน” อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุด้วยว่า การจะลงนาม หรือไม่ลงนาม ขึ้นอยู่กับปัจจัยว่า ถ้ามีการตรวจสอบแล้วเห็นว่า ยังเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบกฎหมาย ก็เซ็นไม่ได้
“ ถ้าท่านสั่งการมาแล้ว แล้วพบว่าไม่มีอะไรผิดกฎหมาย ก็ต้องเร่งดำเนินการด้วยซ้ำไป เพราะตอนนี้ถือว่ากระบวนการมีความล่าช้า ผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีความเสี่ยงในเรื่องความรับผิดทางละเมิด เพราะถือเป็นการทำให้ขัดขวางผลประโยชน์ของรัฐ หรือ ถ้ารัฐมนตรีสั่งการมาแล้วว่า ไม่มีอะไรผิด หรือไม่ถูกต้อง ให้ดำเนินการต่อไป เราก็ไม่ควรล่าช้า เนื่องจากจะกลายเป็นประเด็นอื่นเกิดขึ้นมา” อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าว