ตร.คุมไฮโซทะเล 2 ผู้ต้องหา อุ้มปล้น“นักธุรกิจชาวสิงคโปร์” ฝากขัง

ความคืบหน้ากรณีไฮโซทะเล พร้อมนักธุรกิจวิศวกรรมซอฟต์แวร์ สองผู้ต้องหาคดีอุ้มปล้นรถหรูและทรัพย์สิน นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ กว่า4.5 ล้านบาท ล่าสุดเช้านี้ตำรวจเตรียมควบคุมตัวฝากขังศาลอาญา

กรณีตำรวจสน.ห้วยขวางบุกเข้าจับกุม นายธฤต ณ พัทลุง อายุ 26 ปี ไฮโซชื่อดัง และ นายเพชร บุญวงษ์ อายุ 44 ปี นักธุรกิจด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ร่วมกับพวก 7 คน เอารถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาเยนน์ และทรัพย์สินของนายหยาง นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ มูลค่ากว่า 4.5 ล้านบาท หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ความคืบหน้าล่าสุด พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เตรียมนำตัวนายนายธฤต และนายเพชร ผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งถูกจับกุมเมื่อคืนวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่าน ทำการฝากขังศาลอาญา ด้านทนายความของผู้ต้องหา ระบุว่า เบื้องต้นผู้ต้องหายังยืนยันให้การปฏิเสธ โดยขณะนี้ตัวผู้ต้องหามีอาการผ่อนคลายเครียดขึ้นแล้ว สำหรับแนวทางต่อสู้คดีนั้นเป็นเรื่องการไม่มีเจตนาในการกระทำตามข้อกล่าวหาดังกล่าว ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดไว้ประกันตัวในชั้นศาลแล้ว แต่ไม่สามารถเปิกเผยได้

สำหรับความสัมพันธ์ของผู้กล่าวหากับทางผู้ต้องหานั้นเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมา 2-3 ปี กินเที่ยวด้วยกัน ซึ่งในวันเกิดเหตุทตามคลิปก็เห็นชัดเจนว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการควบคุมตัวผู้กล่าวหา เพียงแค่เดินออกมาด้วยดันเท่านั้น ทั้งนี้ทางผู้กล่าวหายังไม่มีการติดต่อเข้ามา รวมถึงทางฝั่งคนก็ยังไม่ได้ติดต่อไปแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องในลักษณะนี้ไม่ทราบว่าจะสามารถหารือกันได้หรือไม่

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า รถยนต์ปอร์เช่ มูลค่ามากกว่า 4 ล้านบาทของผู้เสียหายคันนี้ สูญหายไปนั้น ยืนยันว่า รถยนต์ไม่ได้อยู่กับลูกความตัวเอง มีเพียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก มูลค่าหลักหมื่นเท่านั้น และเป็นการหยิบยืมกัน ตั้งใจจะเอาไปคืนอยู่แล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์พูดความจริงไม่หมด และกำลังพิจารณาว่า จะแจ้งความกลับ ข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะทั้ง 3 คนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงในการทำธุรกิจ ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ รู้จักโดยผิวเผิน เพราะเคยไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งมีเพียงลูกความของตนเอง ที่พูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวคนที่เหลือมาสอบสวนขยายผลต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองรายแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากมีรายละเอียดปลีกย่อย อย่างไรก็ตามมีกำหนดการฝากขังศาลในวันนี้ นอกจากนี้ทางผู้ต้องหาเองก็ได้มีการเตรียมประกันตัวไปในชั้นศาลแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องรอทางผู้บังคับบัญชาแถลง ส่วนผู้ก่อเหตุอีก 5 รายนั้น ยังไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใด เนื่องจากยังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น