วันที่ 11 ก.ค 2565 ที่จังหวัดนครพนม หลังจากเข้าสู่ฤดูฝนทำให้ฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทำให้ลำน้ำสงครามลำน้ำสาขาซึ่งรองรับน้ำมาจากเทือกเขาภูพานจังหวัดสกลนครก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่บ้านไชยบุรี อ.ท่าอุเทนจังหวัดนครพนม มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงจะส่งผลดีต่อพื้นที่เกษตรนาข้าวที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ตลอดทั้งสองฝั่งแล้ว ยังส่งผลดีต่ออาชีพการประมงหาปลาเนื่องจากปลาออกมาเล่นน้ำฝนโดยชาวประมงในพื้นที่อำเภอศรีสงครามจังหวัดนครพนมซึ่งมีลำน้ำสงครามไหลผ่านมีป่าบุ่ง ป่าทาม อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งขยายพันธุ์ปลาที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานทำให้ช่วงนี้ชาวประมงสามารถจับปลาได้เป็นจำนวนมากสร้างรายได้วันละหลายพันบาททำให้ตลาดเทศบาลตำบลศรีสงครามซึ่งนอกจากจะเป็นศูนย์รวมการจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ แล้วยังมีการนำปลาน้ำโขงและปลาลุ่มน้ำสงครามาขายกันอย่างคึกคักมีพ่อค้าแม่ค้านำปลามาวางขายจำนวนมากในช่วงเช้าตรู่ มีเงินหมุนเวียนวันละหลายหมื่นบาทนอกจากนี้ยังมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อส่งต่อไปขายทั่วภาคอีสานอีกด้วย
แม่ค้าขายปลาสดที่ตลาดเทศบาลตำบลศรีสงครามได้เปิดเผยวว่าว่าหลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อชาวบ้านในพื้นที่อำเภอศรีสงครามและอำเภอใกล้เคียงซึ่งทำอาชีพประมงแถบลุ่มน้ำสงครามเนื่องจากเป็นแหล่งขยายพันธุ์ปลาน้ำโขงที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นศูนย์รวมปลานานาชนิดเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนปลาจะมีการอพยพขึ้นมาเพื่อวางไข่ในลุ่มน้ำสงครามทำให้สามารถจับปลาได้เป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาที่มีความนิยมของตลาดนำไปปรุงเป็นเมนูขึ้นชื่อเช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลาปาก ปลาค้าว ปลานาง ปลากรด ปลายอน ปลาหนู ปลาอีตุ ปลาเทโพ ซึ่งมีราคากิโลกรัมละประมาณ 150 บาทถึง 200 บาทขึ้นอยู่กับว่าเป็นปลาชนิดอะไรโดยปลาเนื้ออ่อนถือว่าเป็นปลาที่มีราคาแพงที่สุด จะตกกิโลกรัมละ 350 บาทถึง 500 บาทขึ้นอยู่กับขนาดของปลา มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขายเพราะเป็นที่ต้องการของตลาดนำไปปรุงเป็นเมนูได้สารพัดทั้งต้มยำทอดแกงนึ่งลาบก้อยต้มตามความชอบทำให้ช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้ารวมถึงชาวบ้านทำอาชีพประมงสามารถทำรายได้ถึงวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 ถึง 2,000 บาทเลยทีเดียว.
ภาพ/ข่าว ประทีป วชิระธัญญกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครพนม