"วิกฤตพลังงาน" อินโดนีเซียดีลรัสเซีย ทุ่มเงินสร้างโรงกลั่นน้ำมัน 16,000 ล้านดอลลาร์ บนเกาะชวา หวังลดนำเข้าพลังงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
“วิกฤตพลังงาน” เว็บไซต์ VNA ของเวียดนามอ้างรายงานของเดอะ สเตร็ทส์ ไทม์ส (The Straits Times) ของสิงคโปร์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอินโดนีเซียได้ให้สัมภาษณ์กับ The Straits Times เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า เปอร์ตามินา บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันของรัฐบาลอินโดนีเซียและรอสเนฟต์ บริษัทน้ำมันของรัสเซียได้เห็นชอบในโครงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเมืองทูบัน ที่จังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย
โดยอินโดนีเซียหวังที่จะลดการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากต่างประเทศ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจและพลังงานที่ทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรอสเน็ฟท์ของรัสเซียจะลงทุน 45% และเปอร์ตามินาของอินโดนีเซียจะลงทุน 55% ทั้งนี้ คาดว่าโรงกลั่นแห่งใหม่จะสามารถผลิตน้ำมันแกสโซลีนหรือเบนซิน, น้ำมันดีเซลและน้ำมันสำหรับเครื่องบินได้ 229,000 บาร์เรล/วัน และยังมีเหลือสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอีกด้วย
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า รอสเน็ฟท์ของรัสเซียกำลังเจรจาขอยกเว้นภาษีจากอินโดนีเซีย ก่อนเดินหน้าโครงการ นอกจากโครงการสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่อินโดนีเซียแล้ว รัสเซียยังได้เสนอที่จะลงทุนในโครงการรถไฟที่จังหวัดกาลิมันตัน เพื่อรองรับเส้นทางคมนาคมในกรุงนูซานตารา เมืองหลวงแห่งใหม่ของอินโดนีเซียที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทพลังงานหลายแห่งของรัสเซียยังได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในด้านพลังงานในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนพลังงานหลังจากอินโดนีเซียประสบปัญหาไฟดับบ่อยครั้งในจังหวัดกาลิมันตันและสุลาเวสี ทั้งนี้ การพูดคุยเรื่องความร่วมมือระหว่างรัสเซียและอินโดนีเซียมีขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซียเดินทางไปเยือนรัสเซียเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง