แพ้แล้วพาล เศรษฐกิจไทยไขก๊อก

ย้ายขั้วสลับข้างไปฝ่ายค้าน  ร.อ.ธรรมนัสเล็งกราบลาพี่ป้อม 15 ก.ค.นี้  บิ๊กตู่ยิ้มร่ารัฐบาลสุขอุราไร้หอกข้างแคร่  แต่ลุงป้อมเสียหน้าเพราะการันตีมาตลอดไม่ทิ้งรัฐบาล   เรือแป๊ะไม่หวั่น 16 เสียงพรรคผู้กองย้ายข้างเขย่าศึกซักฟอก เสียงในมือยังอีกบาน ฝ่ายค้านได้เพิ่มแค่ 210 คน  ยังห่างเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ล้มประยุทธ์คว่ำรัฐบาลยังอีกไกล  จับตาอนาคตพรรคผู้กอง โลกกว้างทางแคบ เลือกตั้งรอบหน้าสู้กันหนัก โอกาสมีแต่ริบหรี่  

ควันหลงเลือกตั้งซ่อมเขต 4 จ. ลำปาง ที่จบไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาแบบล็อคถล่ม  หลัง เดชทวี ศรีวิชัย อดีตรองนายกเทศมนตรี ต.เวียงนอกเเละ อดีตสมาชิกอบจ.ลำปาง ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคเสรีรวมไทย ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  คว้าชัยชนะไปครองด้วยคะแนน 55,638 คะแนน  โดยทิ้งห่าง วัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครหมายเลข 3 จากพรรคเศรษฐกิจไทย อดีตผู้แทนเก่าสมัยพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ 30,451 คะแนนไปแบบขาดลอยด้วยคะแนนทิ้งห่างกว่า 2.5 หมื่นคะแนนชนิดไม่เห็นฝุ่น ส่งผลให้เกิดเอฟเฟกต์ตามมามากมาย  ด้านหนึ่งฝ่ายอ้างประชาธิปไตย อย่างพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ฯลฯ  นำผลการเลือกตั้งคราวนี้ไปเคลมว่าเป็นแลนด์สไลด์ของฝ่ายประชาธิปไตย  ที่คนลำปางแสดงให้เห็นแล้วว่าต้องการเลือกคนของฝ่ายไหนเข้ามาบริหารประเทศ

ขณะที่ฝ่ายผู้แพ้แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทยก็ออกมายอมรับการตัดสินใจของประชาชน   บุญสิงห์ วรินทรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค  ออกมาวิเคราะห์สาเหตุความพ่ายแพ้มาจาก ความไม่ชัดเจนในบทบาทการทำงานของพรรคว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือเลือกฝ่ายค้านกันแน่  ตรงนี้จึงอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและมองการทำงานของพรรคยังไม่ชัดเจน จึงเป็นช่องว่างทำให้เกิดความไม่เข้าใจได้นอกจากนี้การลงพื้นที่น้อยเพราะไปเน้นงานในสภาหรือกรรมาธิการทำให้ห่างจากพื้นที่ ส่งผลให้การลงไปพบประชาชนทำได้น้อยลง ตรงนี้จึงอาจชะล่าใจไปบ้าง อย่างไรก็ตามต้องมาทบทวนความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางออก  ขณะที่ตัวหัวหน้าพรรคอย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  ออกมาอัพเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมรับฟังเสียงชาวบ้านและการเปลี่ยนแปลง  “ ผมขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สนับสนุนพรรคเศรษฐกิจไทยและขอแสดงความยินดีกับพรรคเสรีรวมไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวลำปาง ผมเข้าใจแล้วว่าพี่น้องประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงและผมก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันครับ” ผู้กองนัสระบายความในใจ

ถัดจากนั้นมาไม่เกิน 48 ชั่วโมง  แกนนำพรรค 2 คือ ไผ่ ลิกค์ ส.ส.เขต 1 จ.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค  กับ บุญสิงห์ นายทะเบียนพรรคก็ยื่นจดหมายขอลาออกจากการเป็นกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ วิปรัฐบาล  โดยที่ร.อ.ธรรมนัสระบุเหตุผลที่ไขก๊อกจากเรือแป๊ะว่า  หลังการเลือกตั้งซ่อมเขต 4 จ.ลำปาง ที่ผ่านมา ผลคะแนนที่เกิดขึ้นทำให้ทางพรรคเศรษฐกิจไทยต้องมาทบทวนบทบาททางการเมือง จึงได้มีการประชุมพรรค และได้พูดคุยทบทวนการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าพรรคมีความไม่ชัดเจนในบนบาท ในเบื้องต้นได้ให้บุญสิงห์และไผ่  ลาออกจากการเป็นวิปรัฐบาล เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจน

จากนี้ไปพรรคเศรษฐกิจไทยก็เตรียมตัวไปทำงานร่วมกับฝ่ายค้านอย่างชัดเจนเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยในตอนนี้ยังติดภารกิจอยู่ที่ต่างจังหวัด ซึ่งหลังจากเดินทางมาถึง กทม.  จะเข้าพบกับ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ  เพื่อกราบลาในการออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะถือว่าพล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และตามธรรมเนียมของคนไทยก็ต้องไปลามาไหว้ แว่วว่า 15 ก.ค.นี้ร.อ.ธรรมนัสจะยกทีมไปลาพี่ใหญ่ป้อมอย่างเป็นทางการจากนี้จะไม่ร่วมสังฆกรรมกันอีกต่อไป  เรื่องพรรคผู้กองถอนยวง ใครจะมองยังไงอ้างแบบไหนก็แล้ว  แต่กรณีอย่างนี้ต้องบอกว่าแพ้แล้วพาล มาหาแพะรับบาปว่าเป็นเพราะร่วมรัฐบาลอยู่ข้างพล.อ.ประยุทธ์  แต่ความจริงเพราะทำตัวเองเป็นพวกเหยียบเรือสองแคมต่างหากชาวบ้านจึงลงโทษสั่งสอนแต่มาโยนบาปให้บิ๊กตู่

ถามว่าการลาออกจากรัฐบาลมีผลอะไรกับนายกฯกับรัฐนาวาเรือแป๊ะ  ก็ต้องบอกว่ามีผลแต่ไม่มาก สำหรับตัวพล.อ.ประยุทธ์น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ต้องมีหอกข้างแคร่มาอยู่รบกวนใจอีก ชักเข้าชักออกยังไงก็เอาให้ชัด แถมที่ผ่านมาตัวบิ๊กตู่ก็รู้อยู่แล้วว่าพรรคไหนเป็น “นกสองหัว” หลายศึกที่ผ่านมาจึงไม่ให้ค่าพรรคนี้อยู่แล้ว  แต่ที่ต้องเสียหน้าจากการลาออกรอบนี้ก็ต้องเป็นพี่ใหญ่ป้อม เพราะรับเลี้ยงอุปถัมน์ค้ำชูก๊วนผู้กองมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยเป็นมุ้งอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ จนปีกกล้าขาแข็งถูกขับไสไล่ส่งจนไปตั้งพรรคเอง แว่วว่าลุงป้อมก็ยังส่งค่าน้ำร้อนน้ำชาช่วยเหลือดูแลมาตลอด เพราะเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงกันมานมนาน แต่รอบนี้ประกาศตัดขาดไม่ร่วมรัฐบาล  ทำลูกพี่เสียหน้าพอสมควรเพราะพล.อ.ประวิตรยืนยันมาตลอดว่าพรรคนี้เอาอยู่ก๊วนนี้คุยกันรู้เรื่องมุ้งนี้ไม่มีอะไร  จะมีดื้อเป็นจระเข้ขวางคลองอยู่คนเดียวก็คือตัวผู้กองธรรมนัส ส่วนคนอื่นเข้าใจกันดีหมดเจอลูกงอแงดอกนี้เข้าไปลุงป้อมคงเสียรังวัด เพราะเด็กๆเริ่มเกเรไม่ยอมอยู่ในคาถา

อนาคตจะมีผลกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จ่อคอหอยรัฐบาล 19-22 ก.ค.นี้หรือไม่ บอกได้เลยไม่มีทางทำให้เรือแป๊ะเซ ต่อให้สลับข้างไปทั้งหมดพรรคก็ล้มนายกฯไม่ได้ ย้อนอดีตไปเดือนเศษ จำได้ไหมตอนช่วงอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2566 วาระแรก รัฐบาลก็เสียงผ่านฉลุย 278 ต่อ 194  มารอบนี้สลับขั้วไปยกพรรคตอนนี้พรรคเศรษฐกิจไทยมีส.ส. 16 คน  บวกกันแล้วพรรคฝ่ายค้านก็ได้แค่  210 คน ยังห่างจากจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง 237 คน  ของสภาปัจจุบัน 474 คน  ที่จะล้มนายกฯคว่ำรัฐบาลลุงตู่ได้อยู่อีกมาก  อย่างน้อยต้องหาอีก 27 เสียง โธ่…..พ่อคุณจะไปเอาจากไหน  พรรคเล็กกลุ่ม 16 ก็ออกตัวแล้วว่าอยู่ข้างรัฐบาล พรรคเศรษฐกิจไทยจะไปอยู่กับฝ่ายค้านก็เรื่องของเขา แต่เราอยู่กับรัฐบาลอบอุ่นกว่า ล่าสุดก็เพิ่งได้ของขวัญเป็นสูตรหาร 500 ไม่กี่วันจะกลับลำไปตีหัวพล.อ.ประยุทธ์ก็ดูจะเนรคุณเกินไป

หันมามองที่พรรคเศรษฐกิจไทยของผู้กอง เปลี่ยนฝ่ายกลับลำไปฝ่ายค้านอย่าคิดว่าสบาย ย้อนเวลาตอนถูกขับออกมาจากพรรคพลังประชารัฐในก๊วนมี 21 คน ถูกพรรคภูมิใจไทยพลังใบกัญชาดึงไป 3 คน เหลือมาตั้งพรรคตัวเองแค่ 18 คน อยู่ไปอยู่มาทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.โคราชถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แถมล่าสุดวัฒนาก็ล่องจุ๊นแพ้เลือกตั้งซ่อมไปตามระเบียบ ตอนนี้เหลือส.ส.แค่ 16 คน  แถมดูทรงแล้วมีแต่สาละวันเตี้ยลงไปหน้า ในกระดานตอนนี้มีบัญชีรายชื่อ 3 คน คือ 1.บุญสิงห์ 2.พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์  3. ยุทธนา โพธสุธน  ด้านส.ส.เขตหดสั้นเหลือแค่ 13 คน  แถมไปดูประวัติตอนเลือกตั้งคราวที่แล้ว 24 มี.ค.2562  ส่วนใหญ่ชนะเลือกตั้งเข้าสภามาแบบเจียนไปเจียนอยู่  มีตั้งแต่เฉือนหลักร้อย ชนะไม่กี่พัน ผูกรวมกันมีแค่ 10  คน ที่เฉือนคู่แข่งมาด้วยคะแนนไม่เกินหมื่นประกอบด้วย  1.ธนะสิทธิ์ โค้วสุรัตน์  32,630 คะแนน เขต 6 จ.อุบลราชธานี  ชนะอันดับ 2 พิสิษฐ์ สันตพันธุ์  พรรคเพื่อไทย 32,289 คะแนน   2. เกษม ศุภรานนท์  25,982 คะแนน เขต 1 โคราช ชนะอันดับ 2  วงพงศ์ โสมัจฉา พรรคอนาคตใหม่ 23,855 คะแนน  3. ภาคภูมิ บูลย์ประมุข  20,784 คะแนน เขต 3 จ.ตาก  ชนะอันดับ 2 ชัยณรงค์ มะเดชะ พรรคเพื่อไทย 19,244 คะแนน  4. สะถิระ เผือกประพันธุ์   33,967 คะแนน  เขต 8 จ.ชลบุรี  ชนะอันดับ 2  น.ต.สุรสิทธิ์ ทะวะลัย พรรคอนาคตใหม่ 25,874 คะแนน  5.พรชัย  อินทร์สุข  24,781 คะแนน เขต 1 จ.พิจิตร ชนะอันดับ 2  จักรพงศ์ บุบผา พรรคเสรีรวมไทย 20,375 คะแนน

6.ปัญญา จีนาคำ 29,754 คะแนน เขต 1 จ.แม่ฮ่องสอน ชนะอันดับ 2 สมบัติ ยะสินธุ์ พรรคประชาธิปัตย์  23,050 คะแนน 7. จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ   25,323 คะแนน  เขต 3 จ.สมุทรสาคร ชนะอันดับ 2 ปัญญา ชวนบุญ พรรคชาติไทยพัฒนา 23,671 คะแนน  8.สมศักดิ์ คุณเงิน 40,252 คะแนน เขต 7 จ.ขอนแก่น  ชนะอันดับ 2  ธนิก มาสีพิทักษ์  พรรคเพื่อไทย 38,010 คะแนน ในการเลือกตั้งซ่อม  9. ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ 35,446 คะแนน เขต 2 จ.สุรินทร์  ชนะอันดับ 2 ชูชัย มุ่งเจริญพร พรรคเพื่อไทย 24,465 คะแนน  10. ทัศนาพร เกษเมธีการุณ 36,473 คะแนน  เขต 8 จ.โคราช  ชนะอันดับ 2 พลพีร์ สุวรรณฉวี พรรคภูมิใจไทย 34,817 คะแนน   มีที่ชนะคนอื่นเกินหมื่นคะแนนเข้าสภามาแบบฉลุยแค่ 4 คนเท่านั้น  คือ 1.จีรเดช ศรีวิราช  41,755 คะแนน เขต 3 จ.พะเยา ชนะอันดับ 2 ไพโรจน์ ตันบรรจง พรรคเพื่อไทย 30,761 คะแนน   2.ธนัส ทวีเกื้อกูลกิจ 43,787 คะแนน เขต 1 ส.ส.ตาก ชนะอันดับ 2  นัสชัย มูลสาย พรรคอนาคตใหม่ 19,664 คะแนน  3.ไผ่ ลิกค์  32,642 คะแนน เขต 1 ส.ส.กำแพงเพชร ชนะอันดับ 2  วีระศักดิ์ สุ่นส่า พรรคเพื่อไทย 18,834 คะแนน และ  4.ร.อ.ธรรมนัส 52,417 คะแนน เขต 1 ส.ส.พะเยา  ชนะอันดับ 2  อรุณี ชำนาญยา พรรคเพื่อไทย 21,971 คะแนน

 จะเห็นได้เลยว่าส่วนใหญ่ชนะเลือกตั้งเฉือนคู่แข่งมาแบบหืดขึ้นคอทั้งนั้น   ที่สำคัญชนะเลือกตั้งคราวที่แล้วเพราะ 2 ปัจจัย หนึ่งคือกระแสความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์ และ สองคือความพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐที่มี “อำนาจ เงิน ปืน” ครบครัน  แต่เที่ยวหน้าแยกตัวมาเดินเดี่ยวภายใต้แบรนด์พรรคเศรษฐกิจไทย ถามตรงๆว่าจะเอาปัจจัยอะไรมาสนับสนุนให้กลับมาเป็นส.ส.  ไม่ได้ดูถูกหรือสบประมาทผู้กอง 16 คนที่มีในมือจะรักษาไว้ได้เท่าไหร่  รอบหน้าพรรคเพื่อไทยไม่มีทางหลีก พรรคก้าวไกลมาหวังจัดเต็ม พรรคเจ๊หน่อยก็ประกาศยึดอีสาน  สู้ต่อพรรคเก่ามีแต่ตายกับตาย  แนวโน้มถ้าไม่หนีไปพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน  ที่รอรับเซ้งต่ออ้าแขนพร้อมรับอยู่แล้ว  กระแสก็ดีกระสุนก็เพียบ   หรือจะกลับบ้านเก่าคืนถ้ำพรรคพลังประชารัฐก็ยังพอลุ้นเพราะยังไงลุงป้อมก็พร้อมดูแลอยู่แล้ว   แต่สู้อยู่ต่อกับผู้กองโอกาสกัดก้อนเกลือกินมีสูง ดูทรงมีแต่ “เจ๊า” กับ “เจ๊ง” อนาคตมืดมน ดูเส้นทางการเมืองในวันข้างหน้า โลกกว้างทางแคบจริงๆนะขอรับ

///////////////////////

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ชาวบ้านนาทวี" สงขลา เดือดร้อนหนัก น้ำทะลักซัดบ้านพัง วอนจนท.เร่งช่วยเหลือ
ปรับบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำแบบดั้งเดิม เปลี่ยนสู่แบบพัฒนา ลดเสี่ยง-เลี่ยงโรค
ระทึก ถนนพระราม2 "คานเหล็กก่อสร้าง" ถล่มทับคนงานดับ 2 ราย สูญหาย 2 ราย เจ็บกว่า 10 ราย
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 8 เตือน 10 จว.ภาคใต้ฝนถล่มหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ไทยตอนบนอากาศหนาว
เปิดงานเทศกาลอาหารย่างใหญ่สุดในภาคอีสาน พบกับหุ่นฟางม้าใหญ่สุดในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ ZERO WASTE กระตุ้นท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว
โคราชเตรียม จัดงานสืบสานตำนานข้าวและของดีอำเภอโนนสูง และการประกวดธิดาข้าว การแข่งขันตำข้าวลีลา การแข่งขันหุงข้าวหม้อดิน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
ชาวสัตหีบ ผวา กลัวคนร้ายมีมนต์สะกดให้หลับ ก่อเหตุ 2 ครั้ง ฉกโทรศัพท์ 8 เครื่อง ในศาลาสวดศพวัดเทพประสาท
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ทำ MOU บริษัท ไวท์พลาย ยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผบ.ทร.
ตำรวจภูธรภาค 2 ผนึกกำลังเปิดปฏิบัติการ ล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ
ตำรวจแจ้งเอาผิด 4 ข้อหาหนัก ก่อนฝากขัง "คนร้าย" ยิง 3 ศพ หนองบัวลำภู

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น