"ไฟป่า" ลุกลามต่อเนื่อง ผลพวงจากคลื่นความร้อน ล่าสุด ฝรั่งเศสหนีไม่พ้น เร่งอพยพประชาชนด่วน
ข่าวที่น่าสนใจ
นับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศในยุโรปตะวันตกเผชิญคลื่นความร้อน ทำให้มีอุณหภูมิทะลุ 40 จนเกิด “ไฟป่า” ลามไปทั่วภูมิภาค ล่าสุด ได้เกิดไฟ ป่าลุกไหม้ ทางตอนใต้ของแคว้นบอร์กโดซ์ ฝรั่งเศส ทำลายป่าสนเนื้อที่ประมาณ 8 ตารางกิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชน 150 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
นอกจากนั้น ในบริเวณใกล้ ๆ กันที่ดูน ออฟ ปิลาต (Dune of Pilat) ซึ่งเป็นภูเขาทรายที่สูงที่สุดในยุโรป ไฟ ป่าก็ได้เผาไหม้ป่าสนเก่าแก่เป็นพื้นที่ 1.8 ตารางกิโลเมตร ซึ่งที่นั่นมีผู้อยู่อาศัยราว ๆ 6,000 คน ต้องรีบอพยพในชั่วข้ามคืน โดยทางการได้เปิดศูนย์แสดงสินค้าแห่งหนึ่งในบริเวณนั้น ให้เป็นที่พักแก่ผู้อพยพหลายร้อนคนที่หนีออกจากที่อยู่อาศัยบริเวณภูเขาทรายทั้ง 5 แห่ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า นักดับเพลิงต้องทำงานตลอดทั้งคืนบนผืนทราย เพื่อสกัดไฟไม่ให้ลุกลาม และขณะนี้คาดว่าสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว
ทางด้านนายกรัฐมนตรีเอลิซาเบธ บอร์น ได้ประกาศให้ รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากคลื่นความร้อน ซึ่งคาดว่าจะคงอยู่นานถึง 10 วัน ส่วนประเทศอื่น ๆในยุโรปที่เผชิญไฟ ป่าขณะนี้ ได้แก่
- สเปน
- โปรตุเกส
- กรีซ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ในสเปนกล่าวว่า ระหว่างวันที่ 11 มกราคม-3 กรกฎาคม พื้นที่ป่ามากกว่า 703 ตารางกิโลเมตรถูกไหม้ ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงขึ้นเกือบ 2 เท่าของค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้านไฟ ป่าในเมืองอูเรม ของโปรตุเกสที่เกิดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ได้ปะทุขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศให้ทั้งประเทศอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังไฟ ป่าจนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ตำรวจ และบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน
ด้านนางแคลร์ นุลลิส โฆษกหญิงขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก กล่าวในการแถลงข่าวสรุปในกรุงเจนีวา โดยคาดการณ์ว่า สถานการณ์คลื่นความร้อนจะเลวร้ายขึ้น เนื่องจาก ทำให้เกิดความแห้งแล้ง นอกจากนี้ ยังทำให้ธารน้ำแข็งหลอมละลายมากขึ้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เกิดเหตุการณ์ถล่มของธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ของอิตาลี จากอุณหภูมิที่ร้อนผิดปกติ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง