วันที่ 9 ก.ค.-นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลฉีดวัคซีนแบบไทยๆ สะเปะสะปะว่า นายจาตุรนต์เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ไม่ควรด้อยค่าบุคลากรทางการแพทย์ เพราะการฉีดวัคซีนไม่ได้สะเปะสะปะ ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ อาจมีการปรับเปลี่ยนบ้างเพื่อให้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยเริ่มฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และด่านหน้าทางด้านสาธารณสุข
นายธนกรกล่าวว่า อีกทั้งเชื้อกลายพันธุ์ทำให้การแพร่กระจายง่ายขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตมากขึ้น ส่วนใหญ่อายุเกิน 60 ปี และผู้มีโรคประจำตัว ดังนั้นคณะกรรมการที่ปรึกษาทางสาธารณสุขของ ศบค. จึงให้คำแนะนำว่า จำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต เพราะผู้ติดเชื้อในกลุ่มอื่นส่วนใหญ่มีอาการน้อย ไม่อันตรายถึงชีวิต ทุกอย่างเป็นไปตามการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และปรับตามความสำคัญเหมาะสมเร่งด่วน รวมไปถึงการฉีดให้กลุ่มอาชีพ ประชาชนทั่วไป พื้นที่เศรษฐกิจด้วย
นายธนกร กล่าวอีกว่า ตนผิดหวังกับนายจาตุรนต์มาก ในภาวะวิกฤติโควิดแทนที่จะช่วยกันเสนอแนะในสิ่งที่ถูกต้อง กลับเล่นการเมืองชนิดไม่ลืมหูลืมตา ประเภทมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ไม่ดูกาลเทศะ นายจาตุรนต์อย่าพยายามบิดเบือนข้อมูล การฉีดวัคซีนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ไม่มีการใช้เส้นสาย เงินหรือสถานะทางสังคมไม่สำคัญ ทุกอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ไม่เหมือนรัฐบาลสมัยนายจาตุรนต์ที่น่าจะอยู่ในระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาจนประเทศเสียหาย
นายธนกรกล่าวต่อว่า ในวันนี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งทำทุกอย่างเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน การจัดหาวัคซีน 150 ล้านโดส ซึ่งล่าสุด ครม.อนุมัติสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส เป็นวัคซีนหลักเพิ่มเติม และวัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนตัวเลือก พร้อมกันนี้ ยังจัดซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 10.9 ล้านโดส เพื่อรองรับให้บริการประชาชนช่วยป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวยาฟื้นฟูประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่งเฟส 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการเพิ่มกำลังซื้อผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเพิ่มกำลังซื้อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อีกด้วย