โจรเหิมบุกลักทรัพย์ร้านคนสนิทน้องชาย”ชวน หลีกภัย”

โจรเหิมบุกลักทรัพย์ร้านคนสนิทน้องชาย"ชวน หลีกภัย"

วันที่ 14 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 13 ก.ค. 65 ร.ต.อ.รัฐกาญจน์ พรมราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ภายในร้านกาแฟ เลขที่ 73/4 ริมถนนศรีตรัง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง (ตรงข้ามธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) หลังรับแจ้งจึงได้ประสานห้องวิทยุสื่อสาร สภ.เมืองตรัง วิทยุสั่งการให้ตำรวจสายตรวจและสถานีตำรวจข้างเคียงสกัดจับกลุ่มคนร้าย ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย กำลังชุดสายตรวจอินทรีย์ กำลังชุดสืบสวน ในที่เกิดเหตุเป็นร้านกาแฟตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองภายในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งปลูกติดกับร้านอื่นๆอีกหลายร้าน พบนางพรทิพย์ ธนทวี หรือจีสาว อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 289/37 ถนนตรังคภูมิ อ.กันตัง จ.ตรัง เจ้าของร้าน ซึ่งเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ มีตำแหน่งเป็น กต.ตร.สภ.กันตัง รวมทั้งเป็นคนสนิทของนายระลึก หลีกภัย น้องชายนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายรัฐมนตรี ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยกับญาติๆและผู้เห็นเหตุการณ์ ด้วยความตื่นตกใจ ก่อนนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดบริเวณชั้นวางของภายในร้าน ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้เข้ามาลักทรัพย์สิน ซึ่งเป็นกระเป๋าสตางค์ภายในมีเงินสดจำนวนประมาณ 2,000 บาท และบัตรเอกสารสำคัญต่างๆสูญหายไป ก่อนจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่าคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน สวมเสื้อเชิ้ตสีเทา สวมหน้ากากอนามัย ขับรถฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 7108 ไม่ทราบหมวดอักษรและหมวดจังหวัดเป็นยานพาหนะ

สอบถาม นางพรทิพย์ หรือจีสาว เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนเปิดร้านนี้มา 8 ปี ก่อนจะเกิดเหตุได้ปิดร้านอยู่เนื่องจากออกไปธุระข้างนอก ก่อนที่จะเดินทางกลับมาเปิดร้านอีกครั้งพร้อมกับลูกสาว 2 คน เมื่อมาถึงร้านตนได้เข้าภายในร้านได้เพียงแค่ประมาณ 3 นาที ส่วนลูกสาวเดินไปอีกร้านหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน เมื่อเข้าร้านได้ตั้งกระเป๋าไว้บนชั้นวางของ ก่อนที่จะเดินไปในห้องครัวหลังร้าน ซึ่งช่วงนั้นไม่มีใครอยู่บริเวณภายในโถงร้านเลย เดินกลับออกมาปรากฏว่าเห็นกระเป๋าสะพายเปิดอยู่ มีสภาพถูกรื้อค้น และกระเป๋าสตางค์หายไป จึงได้เดินออกไปหน้าร้าน และได้พบเข้ากับเพื่อนบ้านที่เปิดร้านอยู่ใกล้กัน จึงได้บอกว่ามีคนเข้ามาลักทรัพย์ ทำให้เพื่อนบ้านคนดังกล่าวบอกว่าเห็นคนร้ายเข้าไปในร้านและหลบหนีไปแล้ว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่ทราบหรือสงสัยว่าใครเป็นคนร้าย แต่คิดว่าคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวเป็นอย่างดี

ขณะที่ น.ส.ธิดารัตน์ เจริญสุข อายุ 34 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขายของอยู่ร้านใกล้กัน ช่วงเวลาดังกล่าวตนกำลังเดินมาขึ้นรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่หน้าร้านที่เกิดเหตุพอดี และทันไดนั้นได้มีชายคนดังกล่าว ที่มารู้ทีหลังว่าเป็นคนร้ายมาจอดรถ จยย.หน้ารถเก๋งของตน โดยมีท่าทีมีพิรุธ ถ้ำมองอยู่ในร้าน ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งเข้าไปในร้านและหยิบกระเป๋าออกมาจากร้านและขับรถหลบหนีไป ก่อนที่เจ้าของร้านจะวิ่งออกมาและตนเดินลงไปคุยและบอกตัวคนร้ายกับเจ้าของร้านเบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าของร้านหันหลังและเดินเข้าครัวไปเพียงแค่ 20 วินาทีก่อนที่จะเดินเข้ามารื้อค้นและเอาทรัพย์สินไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดคนร้าย ยังคงไม่พบตัวหรือเบาะแสใดๆ ซึ่งอยู่ในระหว่างการกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง เร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้ พร้อมทั้งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ใช้ในการหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น