“หมิงตี้ เคมีคอล” เตรียมย้ายสารเคมีไปกำจัด คาดใช้เวลา 5-10วัน

...ผู้ว่าฯจ.สมุทรปราการ เร่งเคลียร์พื้นที่ปรับทางเข้า - ออก เตรียมเคลื่อนย้ายสารเคมีไปกำจัด คาดใช้เวลา 5-10วัน

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่โรงงานสารเคมีใน ซ.กิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ช่วงเช้ามืดของวันที่ 5 ก.ค. ผลกระทบจากอัคคีภัยครั้งนี้ที่มีทั้งผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและประชาชนที่ต้องอพยพจากพื้นที่นับพันคน หลังจากใช้เวลากว่า 24 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิงและการระเบิดของที่บรรจุสารเคมีอันตราย โดยมีการระดมทั้งรถดับเพลิงและเฮลิคอปเตอร์จากหลายหน่วยงานมาช่วย ในที่สุดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ซึ่งมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการเป็นประธานก็แจ้งว่าควบคุมเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานสารเคมี บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัดได้แล้วเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 6 ก.ค. แต่ยังคงเฝ้าระวังการปะทุของไฟอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังต้องเร่งวางแนวทางเพื่อจัดการสารเคมีตกค้างในพื้นที่

 

 

ล่าสุดวันที่9 ก.ค. 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์เพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี ได้ตั้งโต๊ะแถลงสรุปข้อยุติในการแก้ไขสารตกค้างอยู่ในพื้นที่ สารเคมีที่อยู่ด้านนอกใช้สาร F500 ในการฉีดพ่น ทำให้สารสไตรีน แปรสภาพไป ดำเนินการเสร็จสิ้นตั้งแต่ 7 กรกฎาคม 64 ส่วนสารเคมีที่อยู่ในถัง ได้ดำเนินการโดยการเติมสาร D5 ลงไปในถัง จำนวน 600 ลิตร เพื่อนำไปผสมกับตัวสไตรีน 600,000 ลิตร ผลทำให้เกิดความเสถียร หลังจากสามารถควบคุมสารเคมีทั้งในถังและนอกถังได้แล้วก็จะนำสารเคมีจากถังไปกำจัด โดยบริษัทมหาชน จำกัด อัคคีปราการ จะเป็นผู้ดำเนินการเคลื่อนย้ายสารเคมีไปทำลายโดยใช้เตาความร้อนสูงกว่า 1 พันองศาในการเผาสารเคมีดังกล่าว

 

ส่วนการเคลื่อนต้องใช้ รถไอโซแท้งค์ ขนาดความจุ 24 คิว ที่มีระบบเซฟตี้วาล์วเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของออกซิเจน และต้องนำรถไฮโซนแท้งค์ เข้าใกล้ถังบรรจุเคมีให้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัย โดยระหว่างในช่วงปฏิบัติการต้องมีรถดับเพลิงคอยเฝ้าระหวังให้พร้อมด้วยรถพยาบาล อย่างไรก็ต้องรอผลและเงื่อนไข ระหว่าง บริษัท ผู้รับจัดการ และ บริษัท ผู้ว่าจ้างคือ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล ต้องเป็นผู้ทำสัญญาก่อนที่จะมีการพิจารณาตามขั้นตอน  และตั้งแต่งช่วงเช้าของวันนี้ จะสังเกตได้ว่า มีรถสิบล้อบรรทุกทรายจำนวนหลายสิบคัน ที่บรรทุกทรายเต็มคันวิ่งเข้าไปในจุดที่เกิดเหตุเพื่อเตรียมเคลียร์พื้นที่ให้รถขนย้ายสารเคมีดังกล่าวเข้าใกล้ตัวถังให้ได้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น