"ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศระเบียบ 10 ข้อว่าด้วยการยึดใบขับขี่ และงดใช้รถชั่วคราวพ.ศ.2565 เช็คด่วนมีอะไรบ้าง
ข่าวที่น่าสนใจ
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่เผยแพร่ระเบียบ 10 ข้อ ว่าด้วยการยึดใบอนุญาตขับขี่ การบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราวพ.ศ. 2565 โดยระบุว่า
เป็นการสมควรกำหนดระเบียบว่าด้วยการยึดใบอนุญาตขับขี่ การบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว หากเจ้าพนักงานจราจรเห็นว่า ผู้ขับขี่ผู้นั้นอยู่ในสภาพที่หากให้ขับรถต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเอง หรือผู้อื่น เพื่อประโยชน์ในการควบคุมวินัยจราจรของผู้ขับขี่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์แก่ความปลอดภัยสาธารณะและสวัสดิภาพของประชาชน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 140/2 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอธิบดีกรมการขนส่งทางบก จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 : ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบว่าด้วยการยึดใบอนุญาตขับขี่ การบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว พ.ศ.2565”
ข้อ 2 : ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180วัน นับแต่วันประกาศใน “ราชกิจจานุเบกษา” เป็นต้นไป
ข้อ 3 : ในระเบียบนี้ “สภาพที่หากให้ขับรถต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น”
- หมายถึง สภาพของร่างกาย จิตใจ พฤติกรรม มีปัญหาการตัดสินใจ หรือมีกรณีอื่น ๆ ที่เห็นได้ว่าบุคคลนั้นหากขับรถต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น
(1) มีสภาพร่างกาย มีอาการป่วยด้วยโรคหรือสภาวะของโรคที่ส่งผลต่อความสามารถในการขับรถในขณะนั้น ได้แก่
- มีอาการง่วงนอน อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
- ลมชัก
- ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ
- แต่ไม่ถึงกับเป็นความผิดตามมาตรา 43 (1) หรือมีอาการอันเนื่องมาจากการดื่มสุรา หรือของเมาอย่างอื่น แต่ไม่ถึงกับเป็นความผิดตามมาตรา 43 (2) เป็นต้น
(2) มีสภาพจิตใจ หรือภาวะทางอารมณ์แปรปรวนที่ส่งผลต่อความสามารถในการขับรถในขณะนั้น เช่น
- ก้าวร้าว
- อารมณ์ร้าย
- แสดงอารมณ์ใส่ผู้อื่นอย่างรุนแรง
(3) มีพฤติกรรมที่ส่งผลต่อความสามารถหรือทักษะในการขับรถในขณะนั้น
ข้อ 4 : ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ตามมาตรา 140 แล้ว หากเจ้าพนักงานจราจรเห็นว่า ผู้นั้นอยู่ในสภาพที่หากขับรถต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น ให้เจ้าพนักงานจราจรเรียกดูใบอนุญาตขับขี่
- หากผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัว ให้เจ้าพนักงานจราจรที่มียศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป มีอำนาจยึดใบอนุญาตขับขี่ หรือบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของบุคคลนั้น เพื่อมิให้ผู้นั้นขับรถต่อไปอีก
- การยึดใบอนุญาตขับขี่ บันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นไปตามแบบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดท้ายระเบียบนี้
ข้อ 5 : เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ขับขี่อยู่ในสภาพที่สามารถขับรถต่อไปได้หรือเมื่อเจ้าพนักงานจราจรแน่ใจว่าผู้ขับขี่จะไม่ขับรถ
- ให้เจ้าพนักงานจราจรคืนใบอนุญาตขับขี่ หรือยกเลิกการบันทึกยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
- การคืนใบอนุญาตขับขี่ ให้เป็นไปตามแบบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดท้ายระเบียบนี้
ข้อ 6 : ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ตามมาตรา 140 แล้ว หากเจ้าพนักงานจราจรเห็นว่า ผู้นั้นอยู่ในสภาพที่หากขับรถต่อไป อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น
- หากเจ้าพนักงานจราจรไม่อาจยึดใบอนุญาตขับขี่หรือบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของบุคคลนั้นได้
- เจ้าพนักงานจราจรที่มียศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป มีอำนาจระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว เพื่อมิให้ผู้นั้นขับรถ ให้เจ้าพนักงานจราจรตามวรรคหนึ่งยอมให้ผู้ขับขี่ขับรถได้ เมื่อผู้ขับขี่นั้นอยู่ในสภาพที่สามารถขับรถต่อไปได้
- หรือแน่ใจว่าผู้ขับขี่จะไม่ขับรถในสภาพดังกล่าว ก็ให้ยกเลิกการระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว
- การระงับใช้รถเป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้ผู้นั้นขับรถและยกเลิกคำสั่งระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว ให้เป็นไปตามแบบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดท้ายระเบียบนี้
ข้อ 7 : เมื่อเจ้าพนักงานจราจรได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ บันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราวแล้ว เพื่อประโยชน์ในการรักษา ความปลอดภัยแก่ชีวิตและร่างกายของผู้ขับขี่ ให้เจ้าพนักงานจราจรดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- ส่งตัวผู้ขับขี่ไปยังสถานพยาบาล หรือสถานที่ปลอดภัยและเหมาะสมตามควร
- แจ้งญาติหรือผู้ใกล้ชิด เพื่อดูแลผู้ขับขี่
- ดำเนินการตามเห็นสมควร เพื่อประโยชน์แก่ผู้ขับขี่
ข้อ 8 : เมื่อเจ้าพนักงานจราจรได้ระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราวแล้ว เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สิน ให้เจ้าพนักงานจราจรดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- แจ้งญาติหรือผู้ซึ่งผู้ขับขี่ไว้วางใจ
- เคลื่อนย้ายรถ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการจราจร
- ดำเนินการตามเห็นสมควร เพื่อประโยชน์แก่ผู้ขับขี่และรถ
ข้อ 9 : กรณีที่เจ้าพนักงานจราจรพบว่าผู้ขับรถเป็นเด็กหรือเยาวชน ให้เจ้าพนักงานจราจรรีบแจ้งแก่บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การที่เด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วยในโอกาสแรก และให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
ข้อ 10 : ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเอง
ข้อมูล : ratchakitcha
ข่าวที่เกี่ยวข้อง