กรมอนามัยของนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ยกระดับความเสี่ยงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จากปานกลาง เป็นระดับสูง หลังจากมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ 8,535 ราย และเสียชีวิต 14 ราย และอาจจะให้มีการนำข้อบังคับการสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่ม กลับมาใช้อีกครั้ง หากระดับความเสี่ยงอยู่ที่สูง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ติดต่อกัน
ด้านนางบาร์บาร่า เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการด้านสาธารณสุขยอมรับว่า การสวมหน้ากาก ช่วยให้เราลดความเสี่ยงได้ แม้จะยอมรับว่า สำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว สิ่งนี้ได้ทำให้รู้สึกเหมือนถอยหลังกลับก็ตาม อย่างไรก็ดี เฟอร์เรอร์ก็ชี้ว่า ลอสแองเจลิสในช่วงฤดูร้อนนี้ ยังไม่ถึงขั้นแสดงให้เห็นว่าจะอยู่ในระดับหายนะ เหมือนอย่างที่เคยเห็นตอนการระบาดของโอมิครอน ในฤดูหนาวปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ลอสแองเจลิสได้ยกเลิกคำสั่งการบังคับใส่หน้ากากอนามัย เมื่อช่วงเดือนมีนาคมของปีนี้ หลังลดระดับความเสี่ยงไว้ที่ระดับต่ำ สำหรับการเตรียมแผนบังคับใช้หน้ากากอนามัยอีกครั้งนั้น นับว่าสอดคล้องกับที่ทางองค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า ไวรัสกำลังดำเนินไปอย่างเสรี และประเทศต่างๆ ก็ยังไม่สามารถจัดการกับโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงยังควรให้ใส่หน้ากากอนามัยกันไว้
ภาพ:
V000_99Z63N (ชาวสหรัฐสวมแมสก์ในห้าง)