ดร.ประยูร อัครบวร อดีตอาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เขียนบทความเรื่อง “กรณีศึกษาความย้อนแย้งหรือขบวนการยุติธรรมที่ไร้หลักยึด” โดยเปรียบเทียบกับการตรวจสอบทุจริตของ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ใจความระบุว่า ..
กรณีศึกษาความย้อนแย้งหรือขบวนการยุติธรรมที่ไร้หลักยึด… เรามักได้ยินคำว่า “ความยุติธรรมที่มาช้า ก็เกิดอยุติธรรมได้” จากกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตนายก อบจ.สงขลา ได้ตรวจสอบพบว่าบริษัทพลวิศว์ เทคพลัสจำกัด ทำเอกสารที่เป็นเท็จ จนถึงมือ ปปช. ก็ได้นำมาฟ้องในคดีปลอมแปลงเอกสาร การฮั้วการประมูล จนกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัทร่วมโกงต่างหลบหนี แต่ในขณะเดียวกัน ปปช.ชี้มูลว่า นายนิพนธ์ ปฏิบัติมิชอบ ไม่จ่ายเงินค่างวดตามสัญญาต่อบริษัทคู่กรณี และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงส่งให้อัยการ ๆพิจารณาแล้วสั่งไม่ฟ้องนายนิพนธ์ แต่ ปปช.กลับมีมติฟ้อง นายนิพนธ์ด้วย ปปช.เอง จึงเกิดคำถามว่าอัยการบกพร่องในการตรวจสอบหลักฐานหรือ ปปช.ต้องการพิสูจน์ความเชื่อของตัวเอง
ซึ่งในข้อเท็จจริง ปปช.ฟ้องบริษัทพลวิศว์ เทคพลัสจำกัดว่ามีความผิด ทุจริต ปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งควรสอดคล้องกับการสั่งการของนายนิพธ์ที่ถือว่าสัญญานี้เป็นโมฆะตั้งแต่ต้น ทั้งการไม่จ่ายเงิน นายนิพนธ์ ได้ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เห็นว่าไม่ควรจ่ายเงินให้บริษัทตามหนังสือจากกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 17 ธค. 2552 ที่ว่า” เมื่อคดีสู่ศาล ให้ระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน” แต่ ปปช.กลับมาฟ้องนายนิพนธ์ว่าทำผิดกฎหมาย จึงเป็นความย้อนแย้งที่สะท้อนให้เห็นว่า ในขบวนการตรวจสอบทุจริตของไทยมีปัญหาและต้องหาบรรทัดฐานให้ผู้ปฏิบัติงาน โดย ปปช.ควรร่วมตอบคำถามด้วยว่า