วันที่(16 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากน.ส.ชบา ใหม่จันดี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชำ อยู่บ้านเลขที่ 334/2 ม.1 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียหาย หลังจากที่ร้านขายของชำที่ตนเองเป็นเจ้าของ ถูกโจรเข้ามาขโมยทรัพย์สิน มีทั้งทองคำรูปพรรณกว่า 4 บาท และทรัพย์สินที่เป็นเงินไว้รักษาตัวรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.15 น.ของคืนวันที่ 10 ก.ค.65 ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านจับภาพขณะที่มีชายทำทีมาเป็นลูกค้าจะมาซื้อของที่ร้าน แล้วไม่เห็นแม่ค้ายืน รอสักพักก็ยังไม่เห็นแม่ค้า
เมื่อเห็นประตูม้วนหน้าร้านที่เปิดอยู่ไว้ครึ่งหนึ่ง คนร้ายจึงได้มุดเข้าไปขโมยเงินในกล่องเงินขายของ แล้วใช้ยานพาหนะเป็นมอเตอร์ไซค์ไม่ทราบยี่ห้อรีบขับหนีออกไป หลังจากนั้น เวลา 23.38 น.คนร้ายยังย่ามใจขับขี่มอเตอร์ไซค์คันก่อเหตุ วนมาที่ร้านค้าอีกรอบ ก่อนขโมยทรัพย์สินไปทั้งกระเป๋าไปเป็นรอบที่ 2 ก่อนจะหลบหนีไปตอนรุ่งเช้า น.ส.ชบา ได้ตื่นมาเปิดร้านเป็นปกติเหมือนทุกวัน จึงเห็นประตูร้านเปิดไว้เอะใจรีบมาดูเงินในกล่องเงินและกระเป๋าที่ใส่เงินสดและทองคำไว้ พบว่าได้หายไปแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เขาหินซ้อน ซึ่งผ่านมาเป็นเวลา 6 วันแล้ว ตนยังไม่เห็นความคืบหน้า จึงได้มาวอนสื่อมวลชนให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้ ทั้งที่ก็มีภาพจากกล้องวงจรปิด
ด้าน น.ส.นุศรา ใหม่จันดี อายุ 24 ปีลูกสาวเจ้าของร้าน เปิดใจว่า ตนเองได้โทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าก็ได้เบาะแสบ้างแล้ว ตนเองไม่สบายใจทั้งที่ผ่านมา 6วัน แล้ว อีกทั้งแม่ของตนเองก็คิดมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดจับกุมให้ได้โดยเร็ว ตนเองเป็นผู้เสียหายก็ร้อนใจ อีกอย่างแม่ของตนเองก็แก่แล้ว ทรัพย์สินที่หายไปแม่ของตนทำมาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งชีวิต เก็บเพื่อไว้ใช้รักษาหรือดูแลตัวท่านเองในยามแก่ชรา น.ส.นุศรา เล่าต่อว่าหลังจากเกิดเหตุแม่ตนเองได้กลายเป็นคนสิ้นหวัง เอาข้าว เอาอาหารไปให้ ก็ไม่ยอมกินอะไรเลยได้แต่เครียดมาก จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดจับกุมตัวร้ายให้ได้โดยเร็วสักที น.ส.นุศรา กล่าว
สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา