ถึงกับกราบรอบสอง ยอมแล้วคุณโจร สายไฟฝังดินวางท่อยังขุดขโมยเอาไป

ชาวนาวอน”เปลี่ยนเจ้าใหม่”คนร้ายขโมยสายไฟพ่วงเข้าสวนเกษตรพอเพียงเป็นรอบสอง ครั้งแรกพ่วงตามเสา โดนขโมยเรียบ ครั้งนี้หวังตบตาโจร ใส่ท่อฝังดินยังขุดเอาไป ท้อเดินสายใหม่ครั้งละ 3 พัน คิดถึง ผู้ว่าฯชัดชาติ จะเอาสายสื่อสารลงดินป้องกันไฟไหม้จะรอดไหม

วันที่ 18 ก.ค. 2565 นายศิริพจน์ อาจจะรงค์ อายุ 40 ปี ชาว ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้เขียนป้านติดหน้าสวนของตัวเอง ด้วยด้วยข้อความว่า”ยอมแล้วคุณโจร”พร้อมนำไปโพสต์ทางโลกโซเชียล หวังให้โจรเห็นใจหลังจากมีคนร้ายเข้าไปขุดเอาสายไฟที่ใส่ท่อฝังดิน เดินไปที่สวนของตัวเอง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 100 เมตร และยังมีทรัพย์สินเล็กๆน้อยๆหลายรายการหายไปด้วย ไม่เว้นยางพาราก้อนที่อยู่ในสวน ถูกขโมยไปทั้งหมด

โดย นายศิริพจน์ เล่าว่า เมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายนมาขโมยสายไฟที่ตนต่อมาจากบ้านยาวประมาณ 100 เมตร โดยพ่วงแบบโยงเสาทำเองมาหาสวน คราวนั้นคนร้ายตัดเอาไปทั้งหมด มูลค่าความเสียหายประมาณ 3,000 บาท ตอนนั้นตั้งสติถ้าเอาสายไฟไปต่ออีกคงจะโดนเหมือนเดิม จึงลงทุนต่อสายไฟไปใหม่ คราวนี้ร้อยท่อ PVC ฝังดินแนบกับคันนาไปเพื่อป้องกันคนร้ายจะเห็นสายไฟ ลงทุนไปอีกกว่า 3,000 บาท เพราะต้องใช้ไฟในการปั่นน้ำรดผักสวนครัว และใช้ไฟนอนเฝ้ากรีดยางที่กระท่อมนา แต่ปรากฏว่าเช้านี้ จะไปนาเห็นภาพแล้วเข่าทรุด เพราะสายไฟที่เดินท่อฝังดิน มีคนร้ายมาขุดดินเอาสายไฟไปอีก นอกจากนี้ที่กระท่อมนาซึ่งได้เก็บ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และบุหรี่ ก็หายไปหมด ที่เจ็บใจเหล้าขาวที่เหลือก้นขวดไว้ประมาณ 2 เป๊ก หวังจะเอามาแก้ตอนเช้าได้หายไปด้วย  รวมถึงยางก้นถ้วยอีกกว่า 20 ก้อน มูลค่าประมาณ 650 บาท หายไปเช่นกัน

นายศิริพจน์ บอกด้วยว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต่อไฟไปสวนได้อย่างไร เพราะฝังดินยังหาย อยากจะฝากถึงคุณโจร “ให้เปลี่ยนเจ้าใหม่บ้างเถอะครับ”เพราะไม่ไหวแล้วโดยวันนี้จะเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง เพื่อให้ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายอยู่ไม่ไกล เพราะรู้ว่าตนเองจะกรีดยาง 2 วัน แล้วพัก 1 วัน ซึ่งช่วงของหายจะตรงกับวันที่ตนพักทุกครั้ง เหตุการณ์ของตนในครั้งนี้ คิดถึงโครงการเอาสายสื่อสารลงดินของผู้ว่าฯกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไฟไหม้ ถ้าเอาลงแล้ว จะมีปัญหาเหมือนตนหรือไม่

ผู้สื่อข่าวสอบถาม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.เมือง บุรีรัมย์ ระบุว่า กรณีดังกล่าว ผู้เสียหายต้องมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเอาไว้ก่อน ตำรวจจึงจะทำงานได้ เท่าที่รับฟังปัญหา ยังมีปัจจัยหลายด้าน ทั้งจงใจเอาทรัพย์สิน หรือจงใจกลั่นแกล้ง .

 

ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น