เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 21.07 น. ได้เกิดเหตุตู้ควบคุมไฟฟ้าระเบิดภายในโรงงาน บริษัท จี.เอส.เอ็นเนอร์จี จำกัด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็นเหตุให้มีลูกจ้างเสียชีวิต 4 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใย สั่งการด่วนให้สำนักงานประกันสังคม เร่งตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประสบเหตุทันที
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจ กับทายาทของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดราชบุรี พบว่าผู้ประสบอันตรายเป็นลูกจ้างของบริษัท จี.เอส.เอ็นเนอร์จี จำกัด ขณะเกิดเหตุลูกจ้าง อยู่ระหว่างการทำงาน จะได้รับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทน ลูกจ้างเสียชีวิต 4 ราย ได้แก่ 1. นายสันทัด ห่วงทอง 2. นายสมบูรณ์ ทองมอญ 3. นายโจ บัวทอง และ 4. นายขาว สมหวัง สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายปรีชา แคโอชา และ MR.ZHOU JIHUANG เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโพธาราม ด้วยอาการบาดเจ็บแผลไฟลวก ส่วนนายชัชวาล เพิ่มสาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยปัจจุบันกลับบ้านได้แล้ว
ด้วยความห่วงใย ในวันนี้ 18 ก.ค.65 ผมจึงมอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ในการนี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมได้มอบ นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางสาวชมพูเพ็ญ ศิริธร ประกันสังคมจังหวัดราชบุรี ลงพื้นที่มอบเงินสิทธิประโยชน์ให้แก่ทายาทของลูกจ้างที่เสียชีวิต ณ วัดพระศรีอารย์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยและเสียใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ และกำชับให้กระทรวงแรงงานเร่งให้ความช่วยเหลือทายาทของลูกจ้างที่เสียชีวิตโดยด่วน ในวันนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ดิฉันเดินทางมามอบสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตให้แก่ทายาทของ นายสันทัด ห่วงทอง โดยทายาทจะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 1,470,000 บาท เงินชราภาพ 158,786.95 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,678,786.95 บาท ดิฉันในนามของกระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตน รวมถึงทายาทของผู้เสียชีวิตที่ประสบเหตุให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วน ทันท่วงที เพราะทุกคนคือครอบครัวประกันสังคม