“อาคม” แทงกั๊กเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC โยน “สันติ” สรุปรอศาลพิพากษาหรือไม่

"อาคม" แทงกั๊กเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC โยน "สันติ" สรุปรอศาลพิพากษาหรือไม่

วันที่ 18 ก.ค.65 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีโครงการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (EEC) มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ภายหลังได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยมี นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ

โดยหลังจากครบกำหนด ส่งผลตรวจสอบภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 และ ขยายเวลาการตรวจสอบอีก 30 วัน จนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ทีมข่าวได้พยายามสอบถามถึงความชัดเจนเรื่องดังกล่าว จากรมว.คลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด ภายหลังการประชุมครม. วันนี้ นายอาคม เปิดเผยกับ TOPNEWS ถึง ความคืบหน้าเรื่องผลสอบฯ ดังกล่าว ว่า ยังตอบไม่ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณา เกี่ยวกับความเห็นของกรรมการตรวจสอบฯ ว่า มีอะไรบ้าง

ส่วนประเด็นที่ศาลปกครองฯ ให้กรมธนารักษ์ ส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมูลท่อส่งน้ำ EEC ภายในวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางกรมธนารักษ์ไม่ได้ส่ง ศาลฯ จึงขยายเวลาให้อีก 30 วัน ให้สามารถนำส่งข้อมูลภายในวันที่ 7 ส.ค.65 นายอาคม กล่าวว่า ต้องให้กรมธนารักษ์ ดูว่าขาดเหลืออะไรที่ต้องส่งบ้าง

และเมื่อถามต่อไปว่า เรื่องนี้จะต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองหรือไม่ ก่อนที่จะพิจารณาเดินหน้าเซ็นลงนามสัญญาต่อไป นายอาคม กล่าวว่า ให้กรมธนารักษ์ดู โดยกรมฯต้องรับรายงาน ของคณะกรรมการตรวจสอบฯ ไปดูว่ามีรายละเอียดอย่างไร มีข้อไหนบ้าง แล้วให้ดำเนินการอย่างไร กรมฯ ก็เป็นคนตั้งเรื่องไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เรื่องนี้ จะให้รอคำสั่งศาลฯ ก่อนหรือไม่ นายอาคม กล่าวว่า ต้องไปดูกระบวนการ ว่ามีประเด็นไหนเกี่ยวข้องไหม ว่าจะต้องรอ หรือไม่รอ

ขณะที่ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ถึงความคืบหน้าท่อส่งน้ำ EEC นายสันติ กล่าวตอบสั้นๆ ว่า ก็ไม่ได้มีปัญหา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านี้ นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยกับ TOPNEWS ว่า เรื่องดังกล่าว ต้องรอรมว.คลัง สั่งการมาก่อน ว่า ผลตรวจสอบมีประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ โดยกรมธนารักษ์จะยึดความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบฯ และคำสั่งของรมว.คลัง เป็นหลัก หรือรมว.คลัง อาจจะมอบหมายให้รมช.คลัง พิจารณา

ซึ่งหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย กรมธนารักษ์ ก็จะเร่งเดินหน้าลงนามในสัญญา กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในการที่จะถูกดำเนินการในทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง รวมถึงจะต้องมีการนัดหมายกับทางคู่สัญญาอีกครั้ง ซึ่งการลงนามจะเกิดขึ้นเมื่อใด ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมในส่วนอื่นด้วย แต่ขณะนี้กรมธนารักษ์ เตรียมการไว้หมดแล้ว

สำหรับปัญหาการประมูล โครงการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (EEC) มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท มีประเด็นสำคัญเริ่มต้นจากการที่ กรมธนารักษ์ ยกเลิกผลการประมูลครั้งที่ 1 ซึ่งปรากฎว่า บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เป็นผู้ชนะการประมูล แต่ต่อมาการประมูลครั้งที่ 2 กลับกลายเป็น บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ถูกคัดเลือกให้เป็นผู้รับชอบดำเนินโครงการ

จากนั้น บริษัท อีสท์ วอเตอร์ ได้ทำการยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอความเป็นธรรม 2 ครั้ง ใน 2 กรณี คือ

กรณีที่ 1. เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 ยื่นคำร้องกรณีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ซึ่งแต่งตั้งโดยกรมธนารักษ์ มีคำสั่งยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และการออกประกาศพร้อมหนังสือเชิญชวนฉบับใหม่ เป็นเหตุให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย

โดยในเนื้อหาคำร้อง บริษัท อีสท์ วอเตอร์ ระบุว่าเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 กรมธนารักษ์ออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนมาประมูลโครงการดังกล่าว โดยเปิดรับซองเอกสารวันที่ 9 สิงหาคม 2564 มีอีสท์วอเตอร์ และเอกชนอีก 2 ราย ยื่นซอง ต่อมากรมธนารักษ์ ได้แจ้งยกเลิกการตัดเลือกเอกชนเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 และปรับปรุงประกาศเชิญชวนใหม่ ซึ่งอีสท์ วอเตอร์ไม่เห็นด้วยและทำหนังสือโต้แย้ง

รวมทั้งเห็นว่าคำสั่งยกเลิกการคัดเลือกดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และประกาศเชิญชวนฉบับใหม่มีเนื้อหาไม่สอดคล้องกับคำสั่งยกเลิก และไม่ก่อประโยชน์ให้รัฐ และเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติผู้ยื่นประมูลให้ด้อยลง รวมทั้งมีเวลาให้อีสท์วอเตอร์เตรียมการประมูลรอบใหม่ไม่มาก โดยได้รับเอกสารประกาศเชิญชวนฉบับใหม่วันที่ 13 กันยายน 2564 และต้องยื่นข้อเสนอวันที่ 28 กันยายน 2564

 

ดังนั้น อีสท์ วอเตอร์ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษา ตามประเด็นคำร้อง ดังนี้

1.ขอเพิกถอนมติหรือคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ที่แจ้งยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564
2.ขอเพิกถอนประกาศเชิญชวนฉบับใหม่ฉบับวันที่ 10 กันยายน 2564
3.ขอให้เพิกถอนมติคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ที่เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ และกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565
4.ให้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ กรมธนารักษ์ และคณะกรรมการที่ราชพัสดุ หยุดการกระทำละเมิด โดยงดการกระทำตามประกาศเชิญชวนเอกชนคเข้าคัดเลือกฉบับใหม่ลงวันที่ 10 กันยายน 2564

และ กรณีที่ 2.เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ยื่นคำร้องขอศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราว เป็นการฉุกเฉินก่อนการพิพากษาคดีหลัก เนื่องจากบอร์ดที่ราชพัสดุ มีกำหนดประชุมเพื่อลงมติรับรองผลการประมูลครั้งที่ 2 โดยไม่รอคำพิพากษาศาลปกครอง

จากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ผู้รับผิดชอบ นำกรณีดังกล่าวไปพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนจะดำเนินการเซ็นสัญญากับ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง ทั้ง ๆ ที่ ศาลปกครองยังไม่มีคำพิพากษา คำร้องเรื่องการยกเลิกประมูลครั้งที่ 1 จนนำมาสู่การที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยมี นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ เพื่อตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น