วันที่ 19 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา มีการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงตอบข้ออภิปรายของฝ่ายค้าน โดยเริ่มจากการแก้ปัญหาโควิด-19 ของ นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ถือว่าเป็นหัวข้อการอภิปรายตนเองในทุกครั้งที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนเองได้พยายามหาหลักฐานข้อมูลพี่แจ้งข้อกังวลและความห่วงใยในข้อแนะนำต่างๆ ตามที่ได้อภิปรายเอาไว้ซึ่งอันไหนที่เป็นประโยชน์ตนเองก็นำไปปรับใช้โดยไม่ได้ปิดกั้นในการรับฟัง
ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 3 สำหรับการแพร่ระบาด ซึ่งผลปรากฏว่าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ระบบสาธารณสุขของไทยก็ไม่ได้ล้มเหลวล่มสลายตามที่อภิปรายมา มีการเตรียมองคาพยพด้านสาธารณสุขที่มีอยู่เพื่อความพร้อมเฝ้าระวังคัดกรองและรักษาผู้ติดเชื้อ มียาที่รักษาผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนได้ทุกคน ซึ่งการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดในช่วงแรกนั้นแน่นอนว่าบุคลากรของสาธารณสุขมีความเสียใจ เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงรัฐมนตรีทุกคนก็มีความเสียใจ ตายคนหนึงก็ไม่ได้ถ้าหากสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้ และยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเกิดจากโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
นายอนุทิน ระบุต่อว่า ประเทศไทยเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ให้การรักษาผู้ป่วยโควิดทุกรายทั้งในและนอกสถานพยาบาลภายใต้การสั่งการของนายกรัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุขที่รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลยาเวชภัณฑ์และค่าใช้จ่ายอื่นๆให้กับประชาชน ผ่านระบบสปสช. รวมทั้งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาเริ่มภูมิคุ้มกัน จนถึงตอนนี้รัฐบาลได้เดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้ว140 ล้านโดสมากกว่า70 เปอร์เซนต์ของประชาชนและมากกว่า 90เปอร์เซนต์ของประชากรที่มีความเสี่ยง เพื่อลดความรุนแรงผ่อนหนักให้เป็นเบาป้องกันการเสียชีวิตอยากเห็นได้ชัด ทั้งนี้ผู้อภิปรายพยายามด้อยค่าทางวัคซีนและเวชภัณฑ์ของไทยเป็นอย่างมาก ทั้งยี่ห้อแอสตร้าฯ ที่ให้ความไว้วางใจมาตั้งฐานการผลิตอยู่ที่ไทยเพื่อให้สามารถไทยได้เข้าถึงวัคซีนได้ง่าย ทั้งนี้ท่านอย่าไปฟังมาเฉยๆ และมีคนทำสไลด์ให้และมาพูดท่านเป็นแพทย์อยู่กระทรวงสาธารณสุขมาด้วย เคยเป็นเลขารมว.สธ. ในสมัยที่ตนเป็นรมช.สธ.ที่ทำงานร่วมกันและเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ไม่ทราบว่าทำไมวันนี้ทัศนคติของท่านต่อกระทรวงสาธารณสุขเปลี่ยนแปลงไปคนในกระทรวงยังเรียกท่านว่าอาจารย์ทุกคนและยังคิดว่าท่านจะให้การสนับสนุนในสิ่งที่สธ.พยายามทุ่มเทให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีความปลอดภัยจากโควิด-19″