โดนแล้ว สบส. ลงดาบ รพ.เอกชน ขายแพ็กเกจรักษาโควิด ผิดกฎหมาย

วันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แจ้งว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. เปิดเผยผลการลงพื้นที่ตรวจสอบการโฆษณาแพ็กเกจรักษาโรคโควิด-19 ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พบว่าไม่ได้ขออนุมัติและไม่ได้รับอนุมัติให้โฆษณา อีกทั้งในบางแพ็กเกจมีเนื้อหาโฆษณาการรักษาด้วยยา “ฟาวิพิราเวียร์” หรือ “โมลนูพิราเวียร์” สุ่มเสี่ยงทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล จึงสั่งฟันโทษตามความผิดกฎหมายสถานพยาบาลทันที

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการตรวจสอบพบว่าโรงพยาบาลมีการโฆษณาแพ็กเกจรักษาโรคโควิด-19 แบบ Home Isolation ซึ่งมีแพ็กเกจหลายรูปแบบให้ผู้ป่วยเลือกรับบริการ โดยในบางแพ็กเกจมีการโฆษณาด้วยข้อความว่าจะมีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์ ให้ผู้ป่วยนำไปรับประทานระหว่างกักตัวตามอาการ แต่ยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาควบคุมพิเศษ ซึ่งต้องสั่งจ่ายและต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นกฎหมายจึงกำหนดให้สถานพยาบาลห้ามทำการโฆษณายา นอกจากได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียก่อน จึงจะมาขออนุมัติโฆษณาจากกรม สบส.แต่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวไม่ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติ และไม่ได้รับอนุมัติให้โฆษณาแต่อย่างใด
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาการกระทำผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 38 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว รวมทั้งการโฆษณาแพ็กเกจการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์ ก็เป็นการจ่ายยาตามอาการโดยไม่ได้จ่ายยาให้กับผู้ป่วยในทุกราย ทำให้ผู้รับบริการเกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล ว่าเมื่อเข้ารับบริการแล้วจะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์ จึงถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 38 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว

ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมลนูพิราเวียร์เป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ภาครัฐจัดสรรให้สถานพยาบาลนำมาให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ตามอาการอย่างเพียงพอ โดยไม่มีการจำหน่ายแต่อย่างใด ดังนั้น ประชาชนไม่ควรซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมลนูพิราเวียร์ ที่มีการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลเนื่องจากอาจจะได้รับยาปลอม หรือยาที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงยาที่ไม่ถูกกฎหมายทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ และให้แจ้งมาที่สายด่วนกรม สบส. 1426 และสายด่วน อย. 1556 เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต
“ไทด์” แฉลึก! ยศใหญ่โทรปิดเกม สั่งย้าย “แตงโม” เข้านิติเวช รพ.ตำรวจ
เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น