วันที่ 20 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คนต่อเป็นวันที่สองนั้น น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ตอนหนึ่งว่า นายชัยวุฒิมีพฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย มีความประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยได้ทำร้ายจิตใจของภรรยาของตัวเองอย่าง แสนสาหัสจนภรรยาต้องออกมาโพสต์ข้อความตามโซเชียลระบุว่า “ได้ทราบเรื่องของครอบครัวคนที่รักว่าสามีพูดกับภรรยาว่าฉันเลือกชีวิตแบบนี้ สามคนผัวเมียเธอรับไม่ได้ก็ออกไป และผู้หญิงอีกคนก็มีลูกสามีเราด้วยฟังแล้วหดหู่ใจเลยได้แต่ให้กำลังใจ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นน.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารงานขอรัฐมนตรี เรื่องนี้จะมีมูลหรือไม่มีมูล เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จะกระทบถึงหลายบุคคลที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องด้วย
ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประธานวินิจฉัยลำบาก เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว แม้จะเป็นเรื่องความประพฤติส่วนตัว แต่ก็เกี่ยวข้องกับการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี อยากให้ผู้อภิปรายพูดด้วยความระมัดระวัง เพราะจะมีผลกระทบต่อหลายฝ่าย หากจะพูดต้องขอร้องให้พูดด้วยความระมัดระวัง
ขณะที่น.ส.ชนก อภิปรายต่อว่า ตนยืนยันว่าได้ขออนุญาตทางสภาฯแล้วว่าจะใช้ภาพประกอบและข้อกล่าวหาของนายชัยวุฒิก็ทราบล่วงหน้ามาตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.แล้วว่าจะต้องถูกกล่าวหาในเรื่องจริยธรรมอย่างร้ายแรง สิ่งที่ตนพูดถึงนั้นในฐานะที่เป็นเพื่อนกับภรรยาของนายชัยวุฒิและทุกคนที่นี่ก็ทราบดีว่าภรรยาของนายชัยวุฒิเป็นส.ส.และอยู่ที่นี่ด้วย ตนมั่นใจว่าเพื่อนสมาชิกอยากจะได้ข้อมูลจากตน เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าจะไว้วางใจนายชัยวุฒิหรือไม่ และทำผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ตนเป็นแม่ของลูก เข้าใจหัวอกของแม่คนหนึ่งเช่นกัน ทั้งนี้ข้อกล่าวหาที่ตนพูดมีบทบัญญัติในประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองพ.ศ. 2564 ข้อที่ 10 ระบุว่าข้าราชการการเมืองต้องดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี และรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ ซึ่งต้องสังเกตว่าไม่ว่าจะเป็นคู่สมรสหรือบุคคลข้างกายก็ต้องใช้มาตรฐานในด้านจริยธรรมประมวลกฎหมายฉบับนี้เช่นเดียวกัน หลายคนต่างมีข้อสงสัยในพฤติกรรมของนายชัยยวุฒิ เพราะทุกคนทราบดีว่าครองรักกับภรรยามาอย่างเนิ่นนานจนมีบุตรด้วยกัน และภรรยาของท่านยังเป็นสมาชิกในสภาฯทรงเกียรติแห่งนี้ ต่อมาเมื่อมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี พฤติกรรมของท่านกลับประพฤติตัวเปลี่ยนไป กลับไปเชิดหน้าชูตาหญิงอื่น เยี่ยงและเหนือกว่าภรรยาของตนเอง ทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัสและทุกข์ทรมาน