วันที่ 20 ก.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คนต่อเป็นวันที่ 2 นั้น นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.ก้าวไกล ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในข้อกล่าวหา จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตใช้อำนาจล้นฟ้าแทรกแซงองค์กรอิสระ ป.ป.ช. และ กรมศุลกากร เพื่อให้พ้นจากคดีการไต่สวนคดีแหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน 22 เรือน ที่ประชาชนทั้งประเทศยังครางแคลงใจ แต่ ป.ป.ช.กลับมีมติและยุติการสืบสวนไปแบบง่ายๆ โดยไม่ได้สืบสวนให้สิ้นกระแสความ
ในฐานะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ของสภาฯได้รับเรื่องพิจารณาคดีดังกล่าวที่มีผู้ร้องให้ฟื้นคดีนาฬิกาหรู เพราะหลักฐานยังไม่ชัดเจน พร้อมอ้างข้อมูลว่ามีความผิดปกติในการไต่สวนคดีนี้ โดยไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่การถ่ายรูป ครม. ได้เห็นภาพแหวนและนาฬิกา และตรวจสอบการครอบครองโดยตั้งข้อสังเกตว่าการตีความเรื่องการยืมเพื่อนนั้นมีข้อพิรุธเกิดขึ้นเนื่องจากมีการอ้างว่ายืมเพื่อนในช่วงที่ผู้ที่กล่าวอ้างถึงนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว พร้อมกับยกนาฬิกายี่ห้อหนึ่งที่เพิ่งมีการวางจำหน่ายเพียง 1 เดือน หากเพื่อนที่อ้างป่วยหนักจะไปซื้อนาฬิการุ่นล่าสุดได้หรือไม่ โดยเฉพาะนาฬิการุ่นดังกล่าวมีจำหน่ายเฉพาะในต่างประเทศ จึงตั้งข้อสงสัยว่านาฬิกาดังกล่าวเป็นสมบัติของผู้ใด อีกทั้งการตรวจสอบคำชี้มูล ป.ป.ช.จากสื่อมวลชนในคดีดังกล่าวก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้
พร้อมกับตั้งข้อสังเกตถึงที่มาของ กรรมการ ป.ป.ช. ที่เป็นการเห็นชอบแต่งตั้งโดย สนช. ในยุค คสช.บริหารประเทศ เชื่อมโยงสอบว่ากระบวนการแต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช. ของ คสช.เป็นการสร้างอำนาจเพื่อควบคุมการบริหารประเทศหรือไม่ และตั้งคำถามว่าพลเอกประวิตรมีการใช้อำนาจให้กรมศุลกากรซื้อนาฬิกาคืนหรือไม่ ไม่ยอมให้นำนาฬิกาตัวจริงไปไว้ที่ศุลกากรเพียงแต่ส่งภาพถ่ายเท่านั้น ซึ่งผิดปกติจากการดำเนินคดีทั่วไปที่มีการยึดนาฬิกามา
โดยระหว่างการอภิปรายมี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐลุกขึ้นประท้วงโดยอ้างว่าการอภิปรายไม่ได้อยู่ในประเด็น และปมนาฬิกาหรู ป.ป.ช.วินิจฉัยไปแล้วทั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เพราะเป็นเรื่องเดิมที่จบไปและขอให้ก้าวข้าม และประท้วงว่าผู้อภิปรายทำให้เกิดความเข้าใจผิดอำนาจ ป.ป.ช.และ กมธ.ป.ป.ช.ของสภาฯ และข้อมูลกรรมาธิการมีการอนุมัติให้มาเปิดเผยหรือยัง
ทั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านพรรคก้าวไกล ก็ประท้วงกลับโต้กลับกับไปมา อ้างอิงข้อบังคับการประชุม ท้วงติงส.ส.พรรคพลังประชารัฐประท้วงไร้สาระ ช่วงหนึ่งผู้ประท้วงพรรคก้าวไกลก็สอบถามพลเอกประวิตร ที่นั่งฟังการอภิปรายอยู่นั้น ว่าต้องการให้ฝ่ายค้านอภิปรายต่อหรือไม่ ซึ่งพลเอกประวิตรก็เห็นด้วยให้ฝ่ายค้านอภิปรายต่อ