(20 ก.ค. 2565) จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลจันอัด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ได้ยื่นหนังสือให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงประสานไปยังหน่วยงานของรัฐให้มาช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ จำนวน 8 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและภัยแล้ง ภายในตำบลในเวลาเดียวกัน เนื่องจากลักษณะหมู่บ้านทั้ง 8 หมู่บ้านมีทั้งที่สูงและที่ต่ำ จึงทำให้ได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง จึงอยากให้ชลประทานและผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เปิดเผยว่า ตนอยู่บ้านสำโรง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ ก็จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นประจำ เพราะว่าอยู่ใกล้กับสายน้ำลำเชียงไกร ทำให้นาข้าวกว่า 1,000 ไร่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม รวมไปถึงบ้านเรือนประชาชนกว่า 400 หลังคาเรือนก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ในส่วนการแก้ไขปัญหาเกิดจากฝ่ายเก่าได้กีดขวางทางน้ำทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก จึงอยากให้สร้างฝายน้ำล้นขึ้นมาใหม่ เพราะว่ายามน้ำหลากก็สามารถกักเก็บน้ำได้ส่วนยามแล้งก็ยังมีน้ำไว้ใช้ในการทำการเกษตรได้ หากทำได้จริงจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำในพื้นที่อำเภอโนนสูง ก็จะไหลไปยังอำเภอพิมาย ลงสู่ลำน้ำมูล จึงอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลือโดยเฉพาะกรมชลประทาน
ด้านชาวบ้านอีกรายที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เปิดเผยว่า เหมืองสหกรณ์เป็นจุดเริ่มต้นของสายน้ำสาขาในการกระจายออกไปยังตำบลต่าง อาทิ ตำบลจันอัด ตำบลด่านจาก ตำบลเมืองปราสาท ตำบลลำคอหงส์ ได้ใช้น้ำในการทำการเกษตร ในช่วงฤดูแล้ง จึงอยากให้มีการแก้ปัญหาระยะยาวโดยการก่อสร้างเหมืองส่งน้ำดาดคอนกรีต พร้อมติดตั้งสถานีสูบน้ำไฟฟ้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมหรือหน้าแล้ง ซึ่งจะสามารถควบคุมน้ำในการแบ่งจ่ายได้เป็นอย่างดี จึงอยากฝากถึงกรมชลประทาน รวมไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ช่วยผลักดันงบประมาณ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและหน่วยงานสามารถจะนำน้ำไปผลิตประปาได้ในยามหน้าแล้ง
ด้านนายประเทือง กอคูณกลาง นายก อบต.จันอัด เปิดเผยว่า ในตำบลมีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน แบ่งเป็นบ้านสำโรง บ้านจันอัด บ้านด่านติง บ้านโคกกระพี้ บ้านโคกกระชาย บ้านเหล่า บ้านใหม่และบ้านดอน ซึ่งทั้งหมดจากรับมวลน้ำมาจากอ่างลำเชียงไกร ก่อนที่จะไหลเข้าพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้ภายในหมู่บ้าน ทั้ง 8 หมู่บ้านได้รับผลกระทบ ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะอยู่ที่ลักษณะความสูงต่ำของแต่ละหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ในส่วนประเด็นเรื่องน้ำท่วมก็เกิดขึ้นมาเป็นประจำ ชาวนาไม่สามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ในส่วนหมู่บ้านอีกฝั่งก็ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ส่วนสายน้ำที่จะไหลไปยังเมืองปราสาท เกิดภัยแล้ง อยากให้กรมชลประทาน เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะจุดเหมืองสหกรณ์จะสามารถแบ่งเบาภาระได้เป็นอย่างดี ด้วยการสร้างเหมืองส่งน้ำจากคอนกรีต พร้อมติดตั้งสถานีสูบน้ำไฟฟ้า ในส่วนที่น้ำท่วมคือฝ่ายน้ำเก่าที่ต้านน้ำให้รื้อออกเป็นนโยบายของผู้ว่า ซึ่งในปีนี้ก็รอดูว่าจะได้ผลหรือไม่.
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา
