บิ๊กตู่ไม่กลัวแม้ว แน่จริงก็กลับมา ประกาศกร้าวท้าชนกลางสภา

ประกาศกร้าวกลางสภา แปลงเวทีศึกซักฟอกท้าชนแม้ว  เย้ยตอนนี้ไปอยู่ไหนแล้ว ?  ย้ำไม่กลัวพรรคผีหัวขาด  อนุทินประกาศชัดไม่ร่วมสังฆกรรมพรรคเพื่อไทย  ปักหลักจุดยืนหนุนประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ ฝ่ายประชาธิปัตย์ก็ไฟท์บังคับยังไงก็ต้องอยู่ข้างบิ๊กตู่แน่   ลุ้นผ่านโค้ง 3 แบบฉลุย ป้ายหน้าเดือนส.ค.ตีความ 8 ปีนายกฯ

อภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านพ้นไปแล้วกว่าครึ่งทาง ต้องบอกว่าไม่มีอะไรใหม่สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของรัฐนาวาเรือแป๊ะเทอม  2  ต้องบอกว่าผ่านมาแล้วเกือบ 3 วัน ฝ่ายค้านยังไม่มีทีเด็ดอะไรตามที่โม้ไว้  เล่นใหญ่โตยังกะหนังบู๊เกาหลีแต่พอออกฉายจริงเป็นแค่การ์ตูนแมวไล่จับหนู  ยุทธการ “เด็ดหัวสอยนั่งร้าน”  ที่ประโคมโหมกันสุดๆ ออกโปรเตอร์โบร์ชัวกันเอกเกริกสุดท้ายก็แค่ปาหี่ เพราะไม่มีเรื่องแหลมคมอะไรมาซักฟอกเอาผิด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม รวมถึงรัฐมนตรีที่เหลือรวม 11 คนได้  ส่วนใหญ่เอาเรื่องเก่าขุดข่าวเดิมๆมาเล่า แต่ละวันที่ซักฟอกก็ขี่ม้าเลียบค่ายให้หมดเวลาไปวันๆ ขุนพลที่ลุกอภิปรายแต่ละคนก็จืดชืด  เรียกคนไม่ได้หาแนวร่วมแทบไม่มี    เรื่องที่เอามาซัดรัฐบาลอัดนายกฯแต่ละดอกก็ฝุ่นจับราขึ้น ส่งผลให้คนไม่สนใจแทบจะกลายเป็นศึกซักฟอกแกงจืด  เสมือนหมดราคาของฝ่ายค้านด้อยค่าตัวเองของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล แท้ๆ

ถึงขนาด “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องออกมาเย้ยผ่านสื่อ “ การอภิปรายแบบนี้ไม่มีหลักฐาน อภิปรายเปรอะเสียเวลา ซึ่งรัฐบาลต้องเทียวไล้เทียวขื่อ เข้าๆออกอีกทั้งสัปดาห์ไม่ต้องทำอะไรกันต้องคอยมานั่งฟังว่าจะถูกพาดพิงอะไร และหากข้อมูลไม่ใช่ที่ควรเอามาอภิปราย ไม่เตรียมมาอย่างดีก็ทำให้เสียเวลาสภา อย่างนี้ที่อภิปรายอดีต ไม่ได้อภิปรายรัฐบาลนี้” อนุทินกล่าว  ทั้งเสียหน้าทั้งเสียของทั้งเสียรังวัด  เป้าหมายที่ตั้งใจจะเชือดพล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่แรกหวังทำลายหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและแกนนำแต่ละพรรคให้เสียหายด่างพร้อย ชนิดป้ายสีเอาไว้ให้มัวหมองก่อนถึงการเลือกตั้ง ปรากฎว่าพอถึงเวลาจริงๆ นอกจากจะเชือดพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กลับถูกบรรดาแกนนำรัฐบาล 3 ป. เชือดนิ่มๆ ฝากรอยแผลเอาไว้แบบเหวอะหวะ เปรียบเหมือนมวยขึ้นชก ทำเข้าไม่ได้ไม่พอยังถูกเขาเตะก้ารคอศอกกลับ เรียกว่าอ่วมอรทัย

3 วัน 2 คืนที่ผ่านมา นอกจากจะต่อยไม่โดนนายกฯเลย  ชกแทบไม่ถูกพล.อ.ประยุทธ์แบบจังๆ  ส่วนใหญ่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ที่ถูกส่วนมากก็แค่หมัดเย็บ เบาๆเหมือนมดกัน ไม่มีหมัดแบบเสือกัดหัวหรือกระทิงพุ่งชนเลย   แค่นั้นไม่พอยังถูกบิ๊กตู่อาศัยเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจแปลงศึกซักฟอก  ประกาศศึกเปิดหน้าชกกับนายใหญ่นายห้างเจ้าของคอกที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร แบบเต็มๆ  แถมแฝงนัยยะการต่อสู้คราวหน้าชนิด  “กูไม่กลัวมึง”  ลองไปนับดูประโยคทองโค้ตเด็ดที่พล.อ.ประยุทธ์ทิ้งไว้ในสภาแต่ละดอกแต่ละเรื่อง  ชัดเจนคือการประกาศเปิดหน้าสู้เดินหน้าชนพร้อมไขว้โทนี่แบบเต็มๆ  อาทิ  คนที่ท่านยกย่องชื่นชมตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว ? ถ้าแน่จริงก็ไปเอาเขากลับมาให้ได้  ? ท่านก็มีนั่งร้าน แต่ท่านไม่มีหัว หัวขาดไปแล้ว ?

พล.อ.ประยุทธ์ในวันนี้กับบิ๊กตู่เมื่อ 8 ปีก่อนไม่เหมือนกันแล้ว  ความเขี้ยวรากดินความเชี่ยวชาญการเมือง  สะสมเพิ่มมากขึ้นนายกฯไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือไม่ใช่ไก่อ่อนให้ทักษิณไล่ถอนขนอีกต่อไป ด่ามาด่ากลับ แซะมาแซะกลับ ถองมาถองกลับ  เท่าเทียมไม่มีโกง  อภิปรายไม่ไว้วางใจปี 65 นี้เห็นได้ชัดเลยว่าบิ๊กตู่ไม่มียอมไม่มีอ่อนให้ใคร  ขนาดปีนี้เจอด่านหินๆมาแล้ว 2 ด่าน คือ หนึ่งร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระแรกก็ผ่านมาแบบฉลุย  สองคือการแก้ไขกฎหมายลูกเลือกตั้ง เรื่องสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ บิ๊กตู่ก็โชว์บารมีคุมส.ว.สยบพรรคร่วมกลับลำจากสูตรหาร 100 มาเป็นหาร 500  ชั่วโมงนี้เข้าสู่โค้งอันตรายด่านที่ 3 อภิปรายไม่ไว้วางใจ ดูทรงผ่านไปเกือบ 40 ชั่วโมง ฝ่ายค้านคงบท่าทำอะไรไม่ได้แน่

บวกลบคูณหารนับปัจจัยแวดล้อม จุดแข็งจุดอ่อนเรียบร้อย ดูทางหนีทีไล่หนทางข้างหน้าทางไปต่อแล้วเสร็จ น้องเล็กบูรพาพยัคฆ์อย่างบิ๊กตู่จึงกล้าออกมาประกาศ “ท้าชก” เปิดหน้าสู้ทักษิณทำสงครามกับพรรคฝ่ายแม้วอย่างเป็นทางการ  อย่างที่รู้ว่าผ่านมาแล้ว 2 ด่านอันตราย ขณะที่ด่านที่ 3 ก็ไม่น่าที่จะเป็นอุปสรรค  มองไปข้างหน้าพล.อ.ประยุทธ์จึงเหลือด่านสุดท้ายแค่ด่านเดียวคือ ลุ้นการตีความอายุการทำงาน 8 ปีของนายกฯ  ที่พรรคฝ่ายค้านปักหมุดว่าครบกำหนดการทำหน้าที่ของบิ๊กตู่ คือ  23 ส.ค.2565  หลังเป็นนายกฯยาวมาตั้งแต่เข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศก่อการรัฐประหารดับทุกข์ประเทศเมื่อ  22 พ.ค.2557  ก่อนขึ้นเป็นนายกฯ 23 ส.ค.2557 เรื่อง 8 ปีตีความอายุนายกฯ ทำไมพล.อ.ประยุทธ์และทีมงานจะไม่รู้ว่าหลักการรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร  แต่ที่ไม่เดือดเนื้อร้อนใจเพราะการเป็นนายกฯ ครั้งแรกช่วงปี 2557 -2561 คือ การขึ้นเป็นนายกฯตามบทเฉพาะกาลหลังปฏิวัติ ไม่ได้ครองอำนาจตามบทบัญญัติหรือเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ 2560  เพราะฉะนั้นจึงเอาการบริหารประเทศช่วงนั้นมานับรวมไม่ได้  เจ้าตัวจึงไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับด่านที่ 4 เท่าไหร่

สุดท้ายปลายทางหากผ่านด่าน 3 และ ด่าน 4 ไปได้  ทางสดใสก็รอพล.อ.ประยุทธ์อยู่เบื้องหน้า  เพราะเตรียมแต่งตัวหล่อรับผู้นำระดับโลกมาประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคในเมืองไทยช่วงเดือนพ.ย.ปลายปีนี้ได้เลย  เสร็จจากนั้นก็หาวัน ว. เวลา น. เหมาะๆ ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ อำนาจก็มี บารมีก็พร้อม เงินกระสุนก็มีครบ สิ่งแวดล้อมก็เอื้ออำนวย  แถมล่าสุดพันธมิตรสุดที่รักเพื่อนตายที่ร่วมรบกันมา  อย่างเสี่ยหนูอนุทินยังออกมายืนกรานไม่มีวันร่วมงานพรรคเพื่อไทย  พล.อ.ประยุทธ์ได้ยินแบบนี้คงหัวใจพองโตเพราะอนุทินเล่นพูดเอาใจแบบนี้เป็นใครก็ปลื้มปริ่ม

ชัดเจนว่าเลือกตั้งเที่ยวหน้าไม่ว่าอย่างไร  พล.อ.ประยุทธ์ก็มีพันธมิตรในมืออย่างน้อยแล้วหนึ่งพรรคคือพรรคภูมิใจไทยของอนุทิน  ปัจจุบันมีส.ส. 60 กว่า อนาคตเลือกตั้งคราวหน้าอาจเเตะ 70 คน  นายกฯมีตุนไว้ในกระเป๋า  อีกพรรคแม้ไม่ประกาศจุดยืนข้างบิ๊กตู่แต่ก็น่าจะเป็นไฟท์บังคับต้องยืนข้างเดียวกัน  นั้นคือพรรคประชาธิปัตย์ค่ายสีฟ้าของ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  ที่กับพรรคเพื่อไทยก็เป็น “น้ำกับน้ำมัน” สู้กันมาตลอดอยู่แล้ว เป็นพรรคคู่แข่งกับฝ่ายแม้วพรรคตรงข้ามกับทักษิณมาตลอด  จริตไม่ตรงกันธรรมชาติคนละพวก อยู่คนละฝ่ายซ้ายขวากันมานานไม่เคยบรรจบพบกันเป็นรัฐบาล   เที่ยวนี้มีในมือ 50 คน เที่ยวหน้าบวกลบก็คงไม่เกิน 5  รวม 2 พรรคพันธมิตร  พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ในมือพล.อ.ประยุทธ์ตอนนี้มีเกิน 100 คน

ได้แบบนี้แล้วก็มาร่วมมือกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ผู้จัดการรัฐบาล ทำพรรคพลังประชารัฐให้แข็งแกร่ง  บู๊ตพรรคใหม่ซื้อใจคนไทยให้ได้เหลือเวลาอีก 8-9 เดือนยังพอมีหวัง กู้ศรัทธาเรียกคะแนนนิยมจากคนไทยให้กลับคืนมาถ้าเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐได้ส.ส.มาสัก 80-90 คน ถึงตอนนั้นนมือพล.อ.ประยุทธ์ก็มีส.ส.หนุนหลังเกือบ 200 คน   หาพันธมิตรอีกหน่อย พรรคชาติไทย พรรครวมพลัง พรรคสร้างอนาคตไทย อาจจะรวมถึงพรรคใหม่ อย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ  รวมถึงอย่าลืมกลุ่มพรรคเล็กอีก  มาร่วมเรือแป๊ะรวมเสียงส.ส.ให้ได้เกิน 250 คน ก็ตั้งรัฐบาลได้แล้ว   แต่ทั้งหลายทั้งมวลก็ต้องหยุดยั้งไม่ให้พรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณชนะเลือกตั้งแบบเเลนด์สไลด์คว้าแชมป์แบบถล่มทลายให้ได้ด้วย  อย่ามัวแต่ฝันหวานเรื่องสูตรหาร 500 จะเข้าทางตัวเองอย่างเดียวแล้วลืมส.ส.ระบบเขตทิ้งชาวบ้าน

เลือกตั้งรอบหน้าบัญชีรายชื่อเหลือแค่ 100 คน แต่ส.ส.เขตปาเข้าไป 400 คน  อีสานจาก 116  คนขยับเป็น 132 คน   กรุงเทพ 30คน เพิ่มเป็น 33 คน  ภาตใต้จาก 50 คนเพิ่มเป็น 58 คน ภาคกลางเดิม 106 คน ปรับใหม่เป็น 122 คน  ภาคเหนือจาก 33 คนเพิ่มเป็น 39 คน  ภาคตะวันตกจาก 19 คนเป็น 20 คน ภาคตะวันออก 26 คน เพิ่มเป็น 29 คน  อย่าลืมฝ่ายทักษิณก็มีเครือข่ายมีมือไม้เหมือนกัน  รวมพลังกันจริงๆ ฝ่ายโทนี่ก็มีไม่น้อย ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย พรรคเศรษฐกิจไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ ฯลฯ  เลือกตั้งคราวหน้าจากนี้เหลือเวลาไม่ถึง 9 เดือน เก็งกันไว้หลังจบประชุมเอเปคเดือนพ.ย. พล.อ.ประยุทธ์เล็งยุบสภาแน่ๆ  ออกตัวแรงประกาศท้าชนกับทักษิณกลางสภาแบบนี้  เข้าคูหาเที่ยวหน้าบิ๊กตู่ทุ่มเต็มที่แน่  ส่วนผลจะออกมาแบบ “ประยุทธ์สามสมัย” หรือ “ทักษิณแลนด์สไลด์” ก็ต้องไปลุ้นกันยาวๆ

/////////////////////

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โคราชเตรียม จัดงานสืบสานตำนานข้าวและของดีอำเภอโนนสูง และการประกวดธิดาข้าว การแข่งขันตำข้าวลีลา การแข่งขันหุงข้าวหม้อดิน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
ชาวสัตหีบ ผวา กลัวคนร้ายมีมนต์สะกดให้หลับ ก่อเหตุ 2 ครั้ง ฉกโทรศัพท์ 8 เครื่อง ในศาลาสวดศพวัดเทพประสาท
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ทำ MOU บริษัท ไวท์พลาย ยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผบ.ทร.
ตำรวจภูธรภาค 2 ผนึกกำลังเปิดปฏิบัติการ ล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ
ตำรวจแจ้งเอาผิด 4 ข้อหาหนัก ก่อนฝากขัง "คนร้าย" ยิง 3 ศพ หนองบัวลำภู
รวมพลอริเก่า! ลงขันล่า “ตั้ม แดน 3” จ้างซามูไรในคุก รับจบข้ามแดน
“วราวุธ” สั่ง พม. เปิดวอร์รูมศบปภ. เร่งขับเคลื่อนช่วยกลุ่มเปราะบาง น้ำท่วมภาคใต้
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "สหพันธ์ขนส่งฯ" แลกมุมมองพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้เข้มแข็ง
จีนขู่จะบดขยี้ผู้พยายามประกาศเอกราชไต้หวัน
"รมว.ปุ๋ง" ขึ้นเหนือชวนนักท่องเที่ยวแอ่วลำปาง-ลำพูน ยกย่องชุมชนคุณธรรมฯ ท่ามะโอ-วัดพระธาตุลำปางหลวง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น