"COVID-19 rebound" ผู้ป่วยรักษาด้วยยาต้านไวรัสจนหาย 2-8 วันกลับมาป่วยซ้ำ ATK กลายเป็นบวกอีก และจากนี้จะพบปรากฏการณ์ลักษณะดังกล่าวมากขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ
หมอมนูญ เผย มีรายงานผู้ป่วย โควิด-19 ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) หรือ โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) นาน 5 วัน ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นหลังจากได้รับยา และอาจมีผลการตรวจการติดเชื้อเช่น ATK เป็นลบ แต่ 2 – 8 วัน หลังหยุดยา กลับมามีอาการป่วยใหม่เหมือนกับการป่วยครั้งแรก และผลการตรวจการติดเชื้อ ATK กลายเป็นบวกอีก (COVID-19 rebound)
“ปรากฏการณ์เช่นนี้พบได้น้อยแค่ 1 – 2 % เท่านั้น หลังกลับมาป่วย ไม่ต้องกินยาต้านไวรัสใหม่อีกรอบ แต่ขอให้กักตัวอย่างน้อย 5 วัน นับจากวันที่เริ่มป่วยรอบที่สอง และใส่หน้ากากอนามัยต่ออีก 5 วัน จนครบ 10 วัน เมื่อคนไทยส่วนใหญ่เข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์ เราจะเห็นปรากฏการณ์ COVID-19 rebound หลังกินยาโมลนูพิราเวียร์มากขึ้น”
หมอมนูญ ยกเคส ผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบ 4 เข็ม มีอาการเจ็บคอ เสียงแหบ ไข้ต่ำ ๆ 37.8 องศาเซลเซียส ตรวจ ATK ให้ผลบวก เริ่มกินยาโมลนูพิราเวียร์ 4 แคปซูล เช้า เย็น วันที่ 2 หลังกินยา อาการดีขึ้น วันที่ 4 ไม่มีอาการเลย ตรวจ ATK ให้ผลลบ กินยาโมลนูพิราเวียร์จนครบ 5 วัน 40 แคปซูล
“ต่อมา 7 วันหลังหยุดยาโมลนูพิราเวียร์ กลับมาเจ็บคอ เสียงแหบใหม่ ตรวจ ATK ให้ผลบวกอีก คาดว่าน่าจะเป็น COVID – 19 rebound จากการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์” หมอมนูญ ระบุและบอกต่อว่า ผู้ป่วยรายนี้ 11 วัน หลังหยุดยาโมลนูพิราเวียร์ อาการเกือบปกติแล้ว มีน้ำมูกบ้าง แต่ผล ATK ยังเป็นบวก คนที่กลับมาป่วยใหม่ไม่ต้องกินยาต้านไวรัสอีก ให้กินยาตามอาการ หลังจากนั้นก็จะหายเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง