“ผู้จัดการหจก.บุรีเจริญ” เคลื่อนไหวสวนกลับ หลัง “ฝ่ายค้าน” กล่าวหาเป็นนอมินี “ศักดิ์สยาม”

"ผู้จัดการหจก.บุรีเจริญ" เคลื่อนไหวสวนกลับ หลัง "ฝ่ายค้าน" กล่าวหาเป็นนอมินี "ศักดิ์สยาม" ลั่นหยุดเสนอข้อมูลเท็จ พร้อมใช้สิทธิ์ทางกฎหมายทุกราย

วันที่ 22 ก.ค. 65 นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น โพสต์คลิปในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Supawat Kasemsut” ถึงข้อกล่าวหาฝ่ายค้านว่าเป็นนอมินีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมว่า “รู้จักกับนายศักดิ์สยามมานานแล้ว ทำธุรกิจหลายอย่าง ไม่ใช่นอมินี มีฐานะทางการเงิน จากการทำธุรกิจพัฒนาที่ดินของครอบครัว การเทรดทอง การเทรดหุ้น คุณศักดิ์สยาม มาเสนอขายหุ้นส่วนใหญ่ของหจก บุรีเจริญฯ เรื่องราคาซื้อขาย ก็มีการเจรจากัน ตอนแรกนายศักดิ์สยาม จะขายราคามากกว่านี้ แต่ผมต่อรองลงมาเหลือเท่านี้ เพราะรู้ว่าคุณศักดิ์สยาม ไม่อยากทำธุรกิจนี้แล้ว เคยพูดกับผมหลายครั้งว่า จะเคลียร์เรื่องธุรกิจ เพื่อไปทำงานการเมืองเต็มตัว ไม่อยากให้มีปัญหาเรื่องหุ้น เหมือนนักการเมืองหลายคนที่มีปัญหา มีข่าวก่อนหน้านี้”

“ผมเจรจาต่อรอง จนมาตกลงซื้อขายกันที่ราคาพาร์ ที่อภิปรายว่า ซื้อขายหุ้น ไม่เสียภาษีนั้น เรื่องนี้คนทำธุรกิจทุกคนรู้ดีว่า ถ้าซื้อขายหุ้นราคาพาร์ ไม่มีกำไร ไม่ต้องเสียภาษี กฎหมายบอกไว้แบบนั้น” นายศุภวัฒน์ กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายศุภวัฒน์ กล่าวว่า การซื้อธุรกิจจากนายศักดิ์สยาม เป็นการซื้อในลักษณะการลงทุน ตนมีเงื่อนไขว่า ขอให้บริษัทตั้งอยู่ที่เดิม เพราะทำธุรกิจเดิม และต้องมีพนักงานบางท่าน ที่เป็นกำลังหลักของหจก.บุรีเจริญ ทำงานต่อไป ช่วงเปลี่ยนผ่าน ขณะที่มีการเจรจาซื้อธุรกิจ ซื้อหุ้นมาจากนายศักดิ์สยาม เมื่อปี 2559 ยังไม่มีแนวโน้ม หรือสัญญาณว่าจะมีการเลือกตั้ง เมื่อใด และไม่มีโอกาสทราบล่วงหน้าว่า นายศักดิ์สยามจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ จะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ การซื้อขายหุ้น มีการโอนเงินกันจริง โอนจากบัญชีของตนไปที่บัญชีนายศักดิ์สยาม เป็น 3 งวด ตั้งแต่ ปี 2560-2561 ช่วงเวลานั้น ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง นายศักดิ์สยามยังไม่มีตำแหน่งทางการเมือง

ซึ่งชัดเจนว่าการซื้อหุ้น ซื้อธุรกิจ หจก.บุรีเจริญ ของตนไม่มีปัจจัยทางการเมืองมาเอื้อประโยชน์แต่อย่างใด มีแต่ความเสี่ยงทางการเมือง แต่ตนเห็นว่าคุ้มค่าการลงทุน จึงตัดสินใจซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม และตนเป็นเจ้าของหจก.บุรีเจริญ ตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา สำหรับเหตุที่ยังไม่ย้ายที่ตั้งบริษัทไปที่อื่น เพราะคู่ค้ารู้จักที่ตั้งตรงนี้ดี มีความสะดวกในการติดต่อทำธุรกิจ และเนื่องจากงานส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน การให้บริษัทอยู่ที่เดิม ทำงานได้ง่ายกว่าย้ายไปที่อื่น การซื้อขายหุ้น ซื้อธุรกิจนี้มา เป็นการลงทุนของตน ไม่ได้มีการประกาศ โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทั่วไปรับทราบ และนายศักดิ์สยาม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหจก บุรีเจริญ ตั้งแต่ ปี 2561 เป็นต้นมา

 

นายศุภวัฒน์ กล่าวว่า หจก.บุรีเจริญ ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง โปร่งใส และทุกงานที่ทำ เป็นงานที่ต้องเข้าแข่งขันราคากับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ด้วยวิธี e-bidding ไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ และไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณศักดิ์สยาม หจก บุรีเจริญ เคยแพ้ e-bidding ไม่ได้งานก็มีหลายงานเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าได้ทุกงาน เพราะในบุรีรัมย์ มีคู่แข่งเยอะมาก

“ผมพร้อมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งต่อผม และหจก.บุรีเจริญ เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสภาฯ กระทบต่อการดำเนินงานของหจก.บุรีเจริญ และขอความกรุณาหยุดเสนอข่าวผมเป็นนอมินีคุณศักดิ์สยาม หากยังมีการนำเสนอข้อมูลใดๆ อันเป็นเท็จ ทำให้ผม และหจก.บุรีเจริญ ได้รับความเสียหาย ผมจะขอใช้สิทธิทางกฎหมาย เพื่อปกป้องตนเอง ต่อไป”นายศุภวัฒน์ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น