สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ 3 มูลนิธิ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 3 มูลนิธิ

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จไปยังห้องประชุม อาคาร ๖๐๖ สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า ทรงเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน ๓ มูลนิธิ ประกอบด้วย มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งมีระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญ ประกอบด้วย การติดตามผลการดำเนินงานของทั้ง 3 มูลนิธิ การพิจารณาแผนการดำเนินงานระหว่างเดือนสิงหาคม 2565 ถึงเดือนธันวาคม 2566 ตลอดจนการเผยแพร่ผลงานของมูลนิธิให้เป็นที่ประจักษ์

มูลนิธิภูบดินทร์ มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ และมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อสืบสาน รักษาและต่อยอดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เรื่อง การจัดตั้งมูลนิธิ ๓ มูลนิธิ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ ทั้ง ๓ มูลนิธิ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นการพัฒนาต่อยอดจากโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ (หมู่บ้านสาละวะ และหมู่บ้านไล่โว่) จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อสืบสานพระราชปณิธานในเรื่องการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง ทำให้ประชาชนมีความยากลำบากในการดำรงชีวิต โดยพื้นที่บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ (หมู่บ้านสาละวะ และหมู่บ้านไล่โว่) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นชุมชนอยู่ติดชายแดน ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ ต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นพื้นที่แหล่งมรดกโลกของประเทศไทยที่ควรได้รับการพัฒนาและอนุรักษ์อย่างยั่งยืนเพื่อให้คนอยู่กับป่าอย่างสมดุล และรักษาต้นน้ำเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เกิดขึ้นจากน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เมื่อทรงรับทราบถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าในพื้นที่ ๕ จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และสระแก้ว ทรงห่วงใยประชาชนที่ประสบปัญหาช้างป่าออกจากป่า มาสร้างความเดือดร้อนให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์

 

มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ฯ ดำเนินงานตามแผนแม่บทสร้างความสมดุลระหว่างคนและช้างป่า โดยแบ่งพื้นที่การดำเนินงานออกเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ พัฒนาแหล่งอาหารช้างป่า ด้วยการทำโป่งและปลูกพืชอาหารช้างป่าและจัดทำแหล่งน้ำและปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม พื้นที่แนวกันชน หรือจุดพักช้างเพื่อตรึงช้างให้ห่างจากชุมชน และเพื่อกำหนดเส้นทางการพาช้างกลับคืนสู่ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ด้วยการปลูกพืชสมุนไพร เพื่อเป็นแนวกันช้างตามธรรมชาติ รวมทั้งจัดทำระบบติดตามและเฝ้าระวังช้างป่า และพื้นที่ชุมชน มีหมู่บ้านคชานุรักษ์ 5 หมู่บ้าน ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออก เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องพฤติกรรมช้าง พัฒนาอาชีพ ให้แก่ชุมชนในเขตต่าง ๆ และสร้างระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน และเตือนภัย

มูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเห็นว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขัง ซึ่งก็คือประชาชนเช่นเดียวกัน ทรงเห็นว่าการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ รวมถึงการได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง เป็นสิทธิของผู้ต้องขังที่ควรได้รับเท่าเทียมกับบุคคลภายนอกตามหลักมนุษยธรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ริเริ่มโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติศาสน์ กษัตริย์ ขึ้น เพื่อเป็นการเติมเต็มสิทธิของผู้ต้องขังให้ได้รับการบริการทางสุขภาพเฉกเช่นประชาชนทั่วไปพร้อมทั้งส่งเสริมการมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ ทัศนคติที่ดี และพัฒนาการเรียนรู้ของผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นฤมล" โพสต์ "กล้าธรรม" ขอบคุณชาวเมืองคอน ไว้วางใจ "ก้องเกียรติ" เป็นสส. ลั่นจำไม่มีวันลืม
สภาพอากาศวันนี้ อุตุฯ เตือนรับมือพายุฤดูร้อน 62 จังหวัด ฝนถล่ม กทม.โดนด้วย
"ทักษิณ" ปราศรัยช่วย "อัศนี" ชิงนายกเล็กเชียงใหม่ หยัน "เท้ง" เอาอะไรมาพูด "เพื่อไทย" จะดึงร่วมรัฐบาล ซัดโทษใครไม่ได้ติดหล่มพรรคส้มคิดแต่จะแก้ 112
"กล้าธรรม" ทำสำเร็จ "ธรรมนัส" ประกาศขอบคุณ "ชาวนครศรีฯ" ไว้วางใจ "ก้องเกียรติ" ชนะเลือกตั้งซ่อม สส.
สระบุรีผวา! กระบะตู้ทึบ ไล่จับเด็กยัดใส่รถช่วงปิดเทอม โชคดีมีคนเจอ
"อาจารย์โต้ง" มองปม "หนุ่มจีน" ฆ่าโหดสาวสอง มีภาวะทางจิต ไม่เกี่ยวค้าอวัยวะมนุษย์-ความเชื่อไสยศาสตร์
"ทักษิณ" ย้ำไม่ห่วงคดีชั้น 14 แขวะ "เสรีพิศุทธ์" ทำตัวดี ๆ เผื่อได้เป็นรองนายกฯ
"เพชร กรุณพล" กร่างหนัก ป้อง "ดร.พอล" โดนร้องคดีผิด 112 วิจารณ์กลับ พวกรัก เทิดทูน สถาบันฯ
"ดนุพร" ขิงใส่ "บิ๊กป้อม ไม่ง้อพปชร. ลั่น 314 เสียง รัฐบาลมีเสถียรภาพแล้ว ชี้สส.ย้ายพรรคเป็นเอกสิทธิ์
ฝนดาวตก 'ไลริดส์' เจิดจรัสกลางฟ้าเสฉวน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น