อ่านสมศักดิ์มองพลังประชารัฐ เขย่าสูตรหาร 500

โชว์ผลงานหวังย้ายพรรค หลังมีข่าวนายใหญ่คนแดนไกลกวักมือเรียกตามลูกพรรคไทยรักไทยกลับรังเก่า รวมพลังล้มประยุทธ์คว่ำ 3 ป.  หรือเป็นห่วงพิษสูตรหาร 500 คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อเลือกตั้งรอบหน้า  พรรคใหญ่โอกาสน้อยพรรคเล็กได้เฮ  ต้องไปลุ้นจัดอันดับบัญชีรายชื่อ

ศึกซักฟอกนายกฯและรัฐมนตรี 11 คนของรัฐบาลเรือแป๊ะเที่ยวนี้  ต้องบอกว่าจืดชืดและผิดฟอร์มไปมากสำหรับพรรคฝ่ายค้าน มูลเหตุที่ทำให้คนที่ตามการเมืองวิพากษ์วิจารณ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรอบนี้ผิดฟอร์มไปมาก  เพราะก่อนวันขึ้นเวทีอภิปรายจริง  พรรคฝ่ายค้านทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลดันจัดหนักจัดเต็ม โหมโรงการอภิปรายรอบสุดท้ายเที่ยวนี้อย่างเต็มที่  ทั้งแถลงข่าวทั้งทำแบนเนอร์ทั้งทำโปสเตอร์ทั้งทำคลิปวีดีโอมาประกอบ แต่ถึงเวลาจริงกลับบ่อจี๊เอาผิดนายกฯ บ่มิไก๊ทำอะไรรัฐมนตรีเรือแป๊ะได้  ส่วนใหญ่ประเด็นกล่าวหาก็เป็นเรื่องซ้ำๆหนังม้วนเดิม แต่เอามารีวิวมาเล่าใหม่

 

อย่างไรก็ตามประเด็นการเมืองร้อนแรงวานนี้  ต้องโฟกัสไปที่การออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องสูตร 500 หาร ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500 ที่เพิ่งผ่านวาระ 2 ไปหยกๆ เมื่อ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา  โดยฟันธงว่า  น่าจะอยู่ไม่ได้ และจะมีปัญหาตามมาทีหลัง เพราะย้อนแย้งกัน ทั้งนี้จากการได้พูดคุยกับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  และ ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคน เริ่มเห็นคล้อยตามกับที่คิดไว้   “แม้ที่ผ่านจะไม่ได้ขัดกฎหมาย แต่ถ้าได้ ส.ส.เขตมากกว่า  ส.ส.บัญชีรายชื่อจะไม่ได้ ยกตัวอย่าง พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส. 50 เขต  บัญชีรายชื่อได้ 5 ล้าน เท่ากับว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะไม่ได้เลย และถ้าเขาได้ ส.ส. 60 คน ก็คงไม่พอใจ เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ”  สมศักดิ์อธิบาย  ก่อนเปิดเผยแนวทางแก้ไขยูเทิร์นจากสูตร 500 หารไปเป็น 100 หาร   ทางแรกคือกลับมาใช้สูตรหาร 100 เพราะการแก้ไขกฎหมายลูกยังไปไม่ไกล หรือ ทางที่สอง คือ ยกเลิกทั้งหมดซึ่งเสียงส.ส.และส.ว.ในสภาสามารถทำได้  แต่เรื่องนี้ต้องถามพรรคภูมิใจไทยด้วย เพราะเป็นพรรคที่กระทบเยอะ โดยเฉพาะบัญชีรายชื่อจะไม่ได้เลย

ฝ่าย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้ความเห็นเรื่องนี้ใจความว่า พรรคภูมิใจไทยได้หมด เพราะสูตรเหล่านี้ไม่ได้ทำความเดือดร้อน หรือเปลี่ยนแปลงอะไรในลักษณะโครงสร้างของพรรคจนมีปัญหา จะหารเท่าไรก็บอกมา จะใช้สูตรหาร 500 หรือหาร 100 ก็ต้องทำงานเต็มที่ เพื่อให้ชาวบ้านเลือกกลับมาเป็นผู้แทน จะหารเท่าไรก็หารไปเถอะ  ฟังดูเหมือนเสี่ยหนูไม่ยี่หระ  แต่พอได้ยินอีกประโยคที่ตามมาชักไม่แน่   “ ผมลองหารเล่นๆ ผมอาจจะไม่ได้เป็น ส.ส.เอา เพราะมันจะไม่เหลือ ส.ส.ปาตี้ลิสต์ที่ผมเลย แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะผมถือว่าผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งโดยตรงมาจากพื้นที่ เขาจะสามารถได้ทำงานให้กับพื้นที่ได้ ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ ก็ต้องพยายามแต่ดูด้วยวิธีการหาร แล้วยาก” อนุทินแจกแจง  นี้ขนาดรองนายกฯแกนนำรัฐบาลเกรดเอ อย่างเสี่ยหนูยังหวั่นไหวกลัวสอบตก แล้วนักการเมืองแถว 2 แถว 3 พรรคอื่นๆ จะอยู่กันยังไง

กรณีของสมศักดิ์ที่ออกมาให้สัมภาษณ์แบบทะลุกลางปล้องเรื่องนี้  ต้องแยกออกเป็นสองประเด็น ประเด็นแรกจู่ๆออกมาให้สัมภาษณ์ทะลุกลางปล้องเรื่องนี้ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดูจะไม่เข้าเรื่อง เวลาไม่เหมาะจังหวะไม่ได้ ถ้าไม่คิดว่าจะย้ายพรรคกลับบ้านเก่าในการเลือกตั้งคราวหน้าตามที่มีข่าวซุบซิบ  ถูกนายใหญ่นายห้างเรียกตัวเหมือนอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยหลายคนเจอหรือป่าวก็ไม่รู้   ก็ต้องบอกว่าเสี่ยสมศักดิ์ปล่อยของออกมาไม่ถูกจังหวะ พูดเรื่องนี้ในตอนที่รัฐบาลกำลังหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่ระหว่างขึ้นเวทีซักฟอกแบบนี้มันดูไม่งาม  เจตนาอยากสะท้อนความกังวลของพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆ  หรือหวังกวนน้ำให้ขุ่นเอาใจโทนี่ทำดีให้ทักษิณเห็นเพื่อเป็นวีซ่ากลับคืนรังอันนี้ก็ไม่รู้  หรืออาจจะคิดแบบประเด็นที่สอง ห่วงสถานะตัวเองพะวงว่าจะไม่ได้เป็นส.ส.คราวหน้าตกที่นั่งลำบากเหมือนเสี่ยหนูหรือป่าวก็อาจเป็นได้

อย่าลืมว่าประเด็นเรื่องของการกลับสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อจากสูตร 100 หารมาเป็นสูตร 500 หาร  แม้จะเป็นไม้เด็ดที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้พรรคอันดับ 1 ตลอดกาลอย่างพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งคราวหน้าแบบแลนด์สไลด์ลงไปได้ แต่มันก็มีเอฟเฟกต์เกิดผลกระทบใหญ่หลวงกับพรรคการเมืองใหญ่ที่เหลือทุกพรรคเช่นกัน   โดยเฉพาะพรรคใหญ่อันดับ  2 อันดับ 4 และ อันดับ  5  ที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลสนับสนุน  “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เช่นกัน  อย่าลืมว่าสูตร 500 หาร พรรคไหนได้ส.ส.เขตมาก จะได้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อน้อยสวนทางกัน  เลือกตั้งคราวก่อน 24 มี.ค.2562  พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตมากที่สุดกวาดไปถึง 136 คน ได้คะแนนรวมทั่วประเทศ  7.88 ล้านคะแนน แต่พอใช้สูตรจัดสรรปันส่วนผสม เพดานส.ส.พึงมีเข้าไปคิดคำนวณ  ผลปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเลยแม้แต่คนเดียว   ส่วนอันดับรองๆลงไปก็แบ่งเค้กส.ส.บัญชีรายชื่อกันสบาย ประกอบด้วย  2.พรรคพลังประชารัฐ ส.ส.เขต 97 คน บัญชีรายชื่อ 19 คน ได้ 8.44 ล้านคะแนน 3. พรรคอนาคตใหม่ ส.ส.เขต 31คน บัญชีรายชื่อ 50 คน ได้ 6.33 ล้านคะแนน 4.พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.เขต 33 คน บัญชีรายชื่อ 20 คน ได้ 3.95 ล้านคะแนน 5.พรรคภูมิใจไทย ส.ส.เขต 39 คน บัญชีรายชื่อ 12 คน ได้ 3.73 ล้านคะแนน  อย่างไรก็ตามนั้นเป็นการเลือกตั้งแบบเก่า บัตรเลือกตั้งใบเดียว ส.ส.เขต 350 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน  แต่เลือกตั้งเที่ยวหน้าส.ส.เขตจะเป็น 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเหลือแค่ 100 คนเท่านั้น

แถมเที่ยวหน้ามีพรรคการเมืองใหม่ๆลงชิงชัยมากขึ้น อาทิ  พรรคไทยสร้างไทยของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์   พรรคสร้างอนาคตไทยของ 2 กุมาร “อุตตม-สนธิรัตน์” พรรคเศรษฐกิจไทยของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส  และอาจจะรวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติของ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์  ตัวหารมากขึ้นสำรับน้อยลง  อย่างที่บอกว่าสูตร 500 หาร พรรคไหนได้ส.ส.เขตมาก จะได้ส.ส.บัญรายชื่อน้อยลง  พรรคพลังประชารัฐอาจไม่ห่วงเท่าไหร่เพราะหลังก๊วนผู้กองถูกขับออกไป  โอกาสได้ส.ส.เขตถึง 97 เหมือนคราวก่อนก็คงยาก เพราะกระแสนิยมตกต่ำ  ส.ส.ที่มีข่าวเตรียมย้ายพรรคก็มีมาก ถัวเฉลี่ยไปก็พอได้ส.ส.บัญชีรายชื่อกับเขาบ้าง  เพราะฉะนั้นเลือกตั้งรอบหน้าพรรคพลังประชารัฐคงไม่มีผลกระทบเรื่องบัญชีรายชื่อมากเท่าไหร่  อย่างน้อย10- 15 คนคงมีติดมือบ้าง  ยกเว้นกลุ่มที่ไม่ใช่แกนนำเบอร์ใหญ่ของพรรคตรงนี้ก็อาจมีลุ้นมีเสียวหน่อย   หากอยู่ในลำดับที่ไม่ดีงานนี้ไม่รู้สมศักดิ์เป็นห่วงกังวลตรงนี้หรือป่าวว่าคราวหน้าคะแนนอาจไม่ถึงลำดับของตัวเอง  ไม่งั้นก็ต้องหาเขตพื้นที่ลงสมัครส.ส.หากหวังจะได้กลับไปสภาแบบชัวร์ๆ แต่งานนี้ก็ต้องเหนื่อยหน่อยเพราะต้องไปลงพื้นที่หาเสียงเอง

เห็นสมศักดิ์ออกมาเต้นเป็นเจ้าเข้าในเรื่องนี้ มองในแง่ร้ายแง่ลบก็เห็นถึงความเปราะบางในพรรคพลังประชารัฐจริงๆ  แค่เรื่องสูตรคำนวณส.ส.หาร 500 ที่ฝ่ายตัวเองพรรคตัวเองเป็นคนตั้งธงเคาะกลับลำกันแท้ๆ  แต่ตัวแกนนำพรรคอย่างสมศักดิ์ยังไม่รู้ยังไม่เข้าใจหรือแกล้งไขสือหวังสร้างผลงานเพื่อต้องการย้ายพรรคคราวหน้าหรือป่าว  ในพรรคตอนนี้ก็คะแนนตกต่ำ  อนาคตจะเหลือใครไปต่อก็ยังไม่รู้   เพราะตอนนี้มีข่าวนายใหญ่โทนี่รุกหนัก  ถึงขนาดต่อสายตรงถึงเด็กเก่าไทยรักไทยที่เป็นแกนนำทุกค่าย   ทั้งออดอ้อนทั้งขอร้องให้กลับมาผนึกกำลังกันที่พรรคเพื่อไทย  ล้มประยุทธ์หยุด 3 ป. บูรพาพยัคฆ์  ความจริงเรื่องสูตร 500 หาร พรรคใหญ่ทุกคนเข้าใจมาสูตรนี้หยุดเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ก็จริง  แต่พรรคใหญ่ต้องโดนหางเลขไปด้วย  ประเด็นนี้ทุกคนก็เข้าใจถึงเจ็บปวดแต่ยอมรับได้  พรรคภูมิใจไทยอาจจะหนักหน่อยรอบหน้าถ้าได้ส.ส.เขตเพิ่ม บัญชีรายชื่ออาจลดลงมาก  ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ว่าหาร 100 หรือหาร 500 ก็ลอยลำไม่กระเทือนอะไรมาก   จบอภิปรายไม่ไว้วางใจเสาร์ 23 ก.ค.นี้   สัปดาห์หน้า 26-27 ก.ค. กฎหมายลูกวาระ 2 จะกลับมาพิจารณาในมาตรา 24 ต่อ จับตาว่าตกลงสูตร 500 หารจะถูกจับทำแท้งหรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตรจะไปยังไงต่อกับเรื่องนี้

//////////////////////////

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โคราชเตรียม จัดงานสืบสานตำนานข้าวและของดีอำเภอโนนสูง และการประกวดธิดาข้าว การแข่งขันตำข้าวลีลา การแข่งขันหุงข้าวหม้อดิน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
ชาวสัตหีบ ผวา กลัวคนร้ายมีมนต์สะกดให้หลับ ก่อเหตุ 2 ครั้ง ฉกโทรศัพท์ 8 เครื่อง ในศาลาสวดศพวัดเทพประสาท
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ทำ MOU บริษัท ไวท์พลาย ยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผบ.ทร.
ตำรวจภูธรภาค 2 ผนึกกำลังเปิดปฏิบัติการ ล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ
ตำรวจแจ้งเอาผิด 4 ข้อหาหนัก ก่อนฝากขัง "คนร้าย" ยิง 3 ศพ หนองบัวลำภู
รวมพลอริเก่า! ลงขันล่า “ตั้ม แดน 3” จ้างซามูไรในคุก รับจบข้ามแดน
“วราวุธ” สั่ง พม. เปิดวอร์รูมศบปภ. เร่งขับเคลื่อนช่วยกลุ่มเปราะบาง น้ำท่วมภาคใต้
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "สหพันธ์ขนส่งฯ" แลกมุมมองพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้เข้มแข็ง
จีนขู่จะบดขยี้ผู้พยายามประกาศเอกราชไต้หวัน
"รมว.ปุ๋ง" ขึ้นเหนือชวนนักท่องเที่ยวแอ่วลำปาง-ลำพูน ยกย่องชุมชนคุณธรรมฯ ท่ามะโอ-วัดพระธาตุลำปางหลวง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น