กรณี ที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่ชอบมาพากล เกี่ยวกับเงินจำนวนประมาณ 150 ล้านบาทของวัดธาตุทอง พระอารามหลวง เขตวัฒนา ที่ถูกปิดบัญชีไปจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาประตูน้ำและสาขาลุมพินี ในขณะที่สมุดคู่ฝาก (บุ๊คแบงค์) ถูกเก็บรักษาไว้โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตในขณะนั้น การปิดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ไม่ปกติ ทั้งไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจในการเบิกครบทุกรูป และถึงขณะนี้ไม่เป็นที่ปรากฏว่า เงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปฝากในธนาคารใด หรือถูกนำไปใช้ในกิจการใด ยังคงเหลืออยู่ตามจำนวนเดิมหรือไม่อย่างไร โดยทราบว่า ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสวัดธาตุทองให้เป็นไวยาวัจกร เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการปิดบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดธาตุทองดังกล่าว
ข่าวที่น่าสนใจ
กระทั่ง รองเจ้าคณะภาค 1 2 3 (ธรรมยุต) ทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธาตุทอง คือ พระราชบัณฑิต (สุดใจ ปสิทธิโก) ได้ทำหนังสือถึงเจ้าอาวาสวัดธาตุทอง เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของไวยาวัจกรรายดังกล่าวและถอดถอนจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลคุณสมบัติไม่เหมาะสม ตามหลักเกณฑ์ที่มหาเถรสมาคมกำหนด
ล่าสุด วันนี้ (22 ก.ค.) พระราชวรญาณโสภณ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง ได้มีหนังสือคำสั่งที่ 06 / 2565 ลงวันที่ 21 ก.ค. 2565 เรื่อง ให้ไวยาวัจกรพักจากตำแหน่งหน้าที่ โดยเนื้อหาในหนังสือคำสั่งดังกล่าวระบุว่า สืบเนื่องจาก รองเจ้าคณะภาค 1 2 3 (ธรรมยุต) ทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธาตุทอง มีหนังสือขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของไวยาวัจกรรายหนึ่ง ซึ่งพบว่าขาดคุณบัติของไวยาวัจกรตามความในข้อ 6 (9) แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 18 (พ.ศ.2536) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนไวยาวัจกร
ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยง ความเสียหายอันจะเกิดขึ้นกับคณะสงฆ์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 37 และ 38 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่2) พ.ศ. 2535 จึงให้ไวยาวัจกรรายดังกล่าว พักจากตำแหน่งหน้าที่และมิให้ทำนิติกรรมต่างๆ ของวัดจนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-