”ศรีสุวรรณ” ดีเดย์ 26 ก.ค. ยื่นหลักฐานป.ป.ช. เพิ่มเอาผิดรฟม.ล้มประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม

“ศรีสุวรรณ” เผยพรุ่งนี้(26 ก.ค.65) เตรียมยื่นหลักฐานต่อป.ป.ช. เพิ่มเติม เอาผิดผู้กระทำความผิดการล้มประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขณะที่รฟม. เตรียมเดินหน้าเปิดให้เอกชนยื่นซองประกวดราคา วันที่ 27 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 – 15.00 น.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ให้สัมภาษณ์ TOPNEWS ถึงประเด็นที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเเห่งประเทศไทย( รฟม.) เตรียมเดินหน้าประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม 65 โดยเปิดรับซองเอกสารข้อเสนอ เวลา 09.00 – 15.00 น. ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ และมีกำหนด เปิดซองข้อเสนอ ในวันที่ 1 ส.ค.65 ว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) ตนจะนำคำพิพากษาของศาลปกครองกลางไปยื่นเพิ่มเติมให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อใช้เป็นหลักฐานเอาผิดผู้กระทำความผิดการล้มประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จากการดำเนินการที่ผิดพลาด ล้มเหลวของรฟม. และผู้บริหารด้านนโยบายของกระทรวงคมนาคม จนทำให้เรื่องลุกลามไปสู่การฟ้องร้องจากภาคเอกชน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยแม้ว่า ศาลปกครองฯ จะไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการลงโทษทางอาญาแต่ทางด้านสมาคมฯ ได้มีการนำเรื่องนี้ไปร้องดีเอสไอ ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งเรื่องไปยังป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบแล้ว เพราะมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรปล่อยผ่าน ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบอร์ดรฟท. ผู้ว่าฯ รฟม. หรือคณะกรรมการ มาตรา 36 เพราะที่ผ่านมาความไว้วางใจในคณะกรรมการมาตรา 36 ค่อนข้างติดลบ เหตุมีพฤติกรรมหลายอย่างทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะการล้มเลิกการประมูลครั้งที่ผ่านมา และเปิดประมูลรอบใหม่ พร้อมอ้างว่าบริษัทอาจไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้บริษัทไทยก็มีผลงานทางด้านการเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา จนในที่สุดศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาออกมาชัดเจนว่า การยกเลิกทีโออาร์เดิมเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายศรีสุวรรณ เชื่อว่า หากไม่มีการยกเลิกการประมูลที่เกิดขึ้น โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการไปแล้ว กว่า 90% พร้อมเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มอีกฝั่งที่สร้างใกล้แล้วเสร็จสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้น ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นมวยล้มต้มคนดู

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หาก รฟม.ยังคงเดินหน้าประมูลต่อในวันพุธที่ 27 ก.ค. 2565 โดยไม่รอคำตัดสินของศาลปกครองฯ และมีการกล่าวอ้างถึงสิทธิในการยื่นอุธรณ์ภายใน 30 วัน ถือว่า มีความเสี่ยงของผู้มีอำนาจ หากคิดว่าการเดินหน้าต่อไป และสุดท้ายศาลได้พิพากษาอันเป็นที่สุดออกมา และยังยืนยันตามในแนวคำพิพากษาเดิมของศาลปกครองกลาง ความรับผิดชอบจะตกไปยังผู้ที่เห็นด้วยในการอนุมัติโครงการ ทั้งทางวินัยและทางอาญา

พร้อมเตือนว่า ควรยุติการดำเนินการเปิดประมูลออกไปก่อนเพื่อรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด หรือไม่ควรอุธรณ์ เพื่อให้คำพิพากษาของศาลปกครองกลางยุติและกลับไปใช้ทีโออาร์เดิม เพื่อให้งานทุกอย่างดำเนินการต่อไป ยืนยันไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงต้องการให้การดำเนินการโครงการเป็นไปอย่างโปร่งใส เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

ส่วนกรณีของคณะกรรมการ ม. 36 ได้มีการกล่าวอ้าง ถึงบอร์ด ม. 36 ที่มีชุดเก่า ชุดใหม่ และอำนาจการดำเนินการแตกต่างกัน นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ในส่วนของบอร์ดชุดเก่าได้หมดอำนาจการตัดสินใจตั้งแต่มีการปรับเปลี่ยน ดังนั้น ในส่วนของบอร์ดชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งมาก็ต้องมารับผิดชอบการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการของโครงการฯ ที่มีการกล่างอ้างว่า จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล แต่การดำเนินการที่แท้จริงไม่ได้มีแนวทางเดียวกันนั้น นายศรีสุวรรณ ระบุว่า สิ่งที่กระทำต้องสอดคล้องกับคำพูด ประชาชนจะต้องสามารถตรวจสอบได้จริงๆ เพื่อรับทราบรายละเอียด ข้อมูล แต่กลับปกปิดข้อมูล กีดกัน ไม่ให้ได้รับทราบข้อมูล ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ดังนั้น รฟม. จะต้องทบทวนถึงนโยบายโปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่ข้อเท็จจริงนั้นกลับไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเงินที่ใช้ดำเนินการมาจากภาษีของประชาชน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.65 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ยกเลิกการประกวดราคา และคำสั่งของผู้ว่า รฟม. ที่มีคำสั่งและออกประกาศยกเลิกการประกวดราคาโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2564 เนื่องจากมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทางรฟม. ระบุว่า จะมีการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาภายใน 30 วัน

 

รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือก เดินหน้ากระบวนการคัดเลือก โดยการออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงินไม่เกิน 96,012 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดูในรายละเอียดข้อกำหนดคุณสมบัติด้านเทคนิค ประสบการณ์ ผลงาน ตามประกาศเชิญชวน ฉบับลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 มีความแตกต่างไปจากฉบับลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ คือ
1. ต้องมีผลงานกับหน่วยงานของรัฐบาลไทย
2. ผลงานต้องแล้วเสร็จ
3. ผู้รับเหมาต้องเป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือกลุ่มนิติบุคคลไทยถือหุ้นรวมกันแล้วไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 51 ฯลฯ
การกำหนดคุณสมบัติใหม่นี้ ทำให้กลุ่มนิติบุคคลของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ที่เคยมีคุณสมบัติสามารถเข้าแข่งขันในโครงการนี้ ไม่สามารถเข้าแข่งขันตามประกาศฉบับหลังนี้ได้ ในขณะที่ข้อกำหนดฉบับหลังนี้กลับไม่มีผลกระทบ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอคู่แข่งขันรายเดียวของบริษัทฯ ตามประกาศ ฉบับลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่ยังคงสามารถยื่นข้อเสนอตามประกาศฉบับลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ได้ ซึ่งรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกทราบดีว่า ด้วยคุณสมบัติและรายละเอียดที่กำหนดขึ้นใหม่นี้ จะทำให้กลุ่มนิติบุคคลของบริษัทฯ ขาดคุณสมบัติและไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันราคาตามประกาศเชิญชวนฉบับใหม่ได้ ข้อกำหนดดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์ เพื่อกีดกันกลุ่มนิติบุคคลของบริษัทฯ และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาคู่แข่งอีกรายอย่างชัดเจนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น
– ส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี)

– ส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายอนันต์ชัย" โพสต์อาลัย "แบงก์ เลสเตอร์" ซัดคนให้ดื่มส่อผิดม.291
“สุริยะ” ตรวจเข้มมอเตอร์เวย์ M81-ถ.พระราม 2 ดูแล ปชช.ช่วงเทศกาลปีใหม่
คึกคัก นทท.แห่ใช้บริการเรือเฟอร์รี่ ข้ามไปเกาะสมุย ร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่
สื่อกัมพูชาตีข่าวกลุ่มชาตินิยมไทยจุดประเด็นพิพิาทชายแดน
วัยรุ่นอินโดฯถูกคลื่นซัดจมน้ำขณะถ่ายรูปบนโขดหิน
สภาเกาหลีใต้มีมติถอดถอนรักษาการประธานาธิบดี
สวนสัตว์สหรัฐเปิดตัวฮิปโปแคระเกิดใหม่
ปธน.สีจิ้นผิงจ่อเยือนรัสเซียปี 2568
"เอ็ม เอกชาติ" รับมีการท้าทายให้ดื่มเหล้าจริง เผยหาก "แบงค์ เลสเตอร์" ดื่มหมดจ่ายแบนละหมื่น
กกต.เริ่มสอบปมคลิปเสียงเงิน 20 ล้าน โยงเลือกอบ จ.ปราจีนบุรี แต่ยังอุบความคืบหน้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น