AFP รายงานว่าเฟดมีการจัดประชุมนโยบายเป็นเวลา 2 วันระหว่างวนที่ 26-27 ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า ในการประชุมวันสุดท้ายวันนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกรอบ โดยคาดว่าอาจปรับขึ้นอีก 0.75% ซึ่งจะเป็นการขึ้นครั้งที่ 4 ภายในปีนี้ ท่ามกลางความพยายามที่จะสกัดวิกฤติเงินเฟ้อของสหรัฐไม่ให้พุ่งไปจนถึงระดับที่คุมไม่อยู่ และว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอีก จนกว่าจะเห็นสัญญานชัดเจนว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชลอตัว โดยตั้งเป้าจะฉุดอัตราเงินเฟ้อให้ลดลง 2% ด้านนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญต่อเนื่อง 4 ครั้งภายในครึ่งปีถือเป็นการใช้ยาแรงที่สุดของเฟดเท่าที่เคยปฎิบัติมา
การคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐทะยานขึ้นไปถึง 9% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นการส่งสัญญานให้เห็นว่าเฟดพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อฉุดอัตราเงินเฟ้อให้ลดลง แม้จะต้องเสี่ยงต่อการเกิดเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม อย่างไรก็ตามเฟดมั่นใจว่าจะสามารถนำสหรัฐให้ผ่านพ้นจากเศรษฐกิจถดถอยไปได้ ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐก็ออกมาสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน
ขณะที่ราคาน้ำมันโลกก็มีแนวโน้มลดลง โดยดัชนี้เวสต์เท็กซัส ของสหรัฐเมื่อคืนนี้ลดลงต่ำกว่า 95 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับช่วงพีคที่พุ่งขึ้นไปกว่า 123 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในเดือนมีนาคม